เชียงใหม่ 28 ต.ค.- กลายเป็นคดีสยองขวัญและได้รับความสนใจอย่างมากสำหรับการฆ่าเศรษฐินียัดตู้เย็นที่เชียงใหม่ ซึ่งล่าสุดคดีคืบหน้าไปมากแล้ว ทั้งรูปแบบการฆาตกรรม ทำไมต้องฆ่ายัดตู้เย็น รวมทั้งเบาะแสของคนร้ายที่ขู่เข็ญผู้ตายจนได้รหัสเอทีเอ็มนำไปกดเงินมากกว่า 1 ล้านบาท
เดินสำรวจประตูเข้าออกที่พบศพยัดอยู่ในตู้เย็น พบว่ามีทางเข้าออกทั้งหมด 3 ทาง ทางที่เห็นในภาพเป็นประตูที่อยู่ชั้น 3 ซึ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยว่าที่จะปีนและเปิดเข้าไป เพราะฉะนั้นจะเหลือประตูเข้าออกแค่ 2 ทาง ซึ่งประตูเข้าออกหลักที่ผู้ตายใช้ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า จะเปิดไม่ได้เลยถ้าไม่ใส่รหัส ต้องใช้คีย์การ์ด มีเพียงเจ้าของคนเดียวที่เปิดเข้าออกได้
นั่นเป็นคำตอบที่ทำให้สันนิษฐานได้ว่า คนร้ายที่เข้าในบ้านได้ต้องเป็นคนคุ้นเคยกับ น.ส.วรรณี จิรเจริญยิ่ง เศรษฐินีวัย 58 ปี เจ้าของบ้านที่คาดว่าตกเป็นเหยื่อฆาตกรรมยัดตู้เย็น เพราะเหยื่อเพิ่งซื้อตึกหลังนี้ได้เพียง 5 เดือน และมาจากต่างถิ่น อาศัยอยู่เพียงลำพัง จึงระวังตัวพอสมควร
สอดคล้องกับการตรวจพิสูจน์ที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งในวันนี้ พบข้าวของในห้องโถงยังถูกจัดไว้เป็นระเบียบ แต่ห้องที่เกิดเหตุที่ต่อเติมขึ้นใหม่ มีร่องรอยของการต่อสู้ขัดขืนไม่มากนัก เหมือนผู้ตายไม่รู้ตัวมาก่อนว่ากำลังตกเป็นเหยื่อ
หลังพบศพเหยื่อที่ถูกฆ่ายัดตู้เย็น สภาพศพถูกมัดมือไพล่หลังด้วยเชือกรัดข้อมืด สก็อตเทปพันปาก มีผงปูนซีเมนต์โรยรอบตู้เย็น เพื่อชะลอเวลาในการพบศพ คล้ายเตรียมการมาอย่างดี และคนร้ายน่าจะมีมากกว่า 1 คน
หมอนวดที่ผู้ตายมานวดเป็นประจำ และน่าจะเป็นคนสุดท้ายที่ได้พบกับเหยื่อที่เธอเรียกว่า เจ๊ ซึ่งมานวดครั้งสุดท้ายช่วงค่ำของวันที่ 10 จากนั้นก็ไม่ได้พบอีกเลย จนกระทั่งพบศพถูกยัดตู้เย็นเมื่อวานนี้ รวมเวลาผ่านไปนานถึง 17 วัน โดยเมื่อ 10 วันที่แล้ว เจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจสอบบ้าน หลังได้รับร้องเรียนกลิ่นเหม็นเน่า โทรเข้าโทรศัพท์ผู้ตาย ปลายสายอ้างว่าเป็นหลานของเจ๊ อ้างว่าเจ๊ไปปฏิบัติธรรมที่อินเดีย จากนั้นไม่สามารถติดต่อได้อีก
ตรงกับเบาะแสชุดสืบสวนที่พบผู้ต้องสงสัยนำบัตรตู้เอทีเอ็มของผู้ตายไปกดเงินครั้งแรกที่ อ.ฮอด ในเช้าของวันที่ 11 พร้อมกับขับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูของผู้ตายหลบหนีไป พร้อมกับตระเวนกดเงินจากเอทีเอ็มอีกหลายครั้ง ซึ่งพบรถผู้ตายในเส้นทางทั้งในเชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง และกลับมาเชียงใหม่ รวมกว่า 1.2 ล้านบาท และยังมีอีกบัญชีที่มีเงินอยู่อีก 40 ล้านบาท ซึ่งมีรายงานว่าถูกกดไปในวันนี้ในพื้นที่ภาคตะวันออก
ผู้ตายมีฐานะร่ำรวย เข้าขั้นเศรษฐินี เพราะจากคำบอกเล่าของผู้ที่เคยพูดคุยและจากการซื้อทรัพย์สิน ทั้งอาคารหลังเกิดเหตุ บ้านพักในเมืองเชียงใหม่ เคยบริจาคเงินให้โรงพยาบาลในเชียงใหม่ถึง 19 ล้านบาท และซื้อรถตู้ถวายวัด
คนทั่วไปจึงแทบจะไม่รู้ว่าเหยื่อมีเงินสดและทรัพย์สินมากมาย เพราะไม่เคยโอ้อวด คนที่จะรู้ข้อมูลจึงน่าจะเป็นคนที่มีความใกล้ชิดคุ้นเคย ซึ่งกลายเป็นคนร้ายที่ลงมือฆาตกรรมอย่างเหี้ยมโหด และน่าจะเผยโฉมเร็วๆ นี้.-สำนักข่าวไทย