กมธ.พลังงานหารือความคืบหน้านโยบายพลังงาน

กรุงเทพฯ 16 ต.ค. – คณะกรรมาธิการการพลังงาน วุฒิสภา รุดพบปะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เพื่อรับทราบและติดตามการดำเนินงานต่าง ๆ ด้านนโยบายพลังงาน 


นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงพลังงาน และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงพลังงาน ได้ร่วมพบปะหารือกับคณะกรรมาธิการการพลังงาน วุฒิสภา นำโดย พลเอกสกนธ์ สัจจานิตย์ ประธานคณะกรรมาธิการ สมาชิกวุฒิสภา ทั้งนี้ เพื่อคณะกรรมาธิการฯ จะได้ติดตามและรับทราบนโยบายการทำงานของกระทรวงพลังงานทุกแง่มุม ในประเด็นต่าง ๆ อาทิ ความคืบหน้าการปฏิรูปประเทศด้านพลังงาน การส่งเสริมโรงไฟฟ้าชุมชน การรื้อถอนแท่นการผลิตปิโตรเลียมของเชฟรอน รวมถึงเรื่องพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา 

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานได้ชี้แจงทิศทางสำคัญให้คณะกรรมาธิการฯ ทราบ โดยสรุป 3 เรื่องใหญ่ คือ เรื่องที่ 1 กระทรวงพลังงานผลักดันนโยบาย Energy For All พลังงานเพื่อทุกคน เพื่อให้เกิดการกระจายอำนาจการบริหารจัดการพลังงานไปในกลุ่มฐานรากมากขึ้น จากเดิมมีเพียงผู้เล่นเป็นรายใหญ่ ทิศทางจะเป็นกระแส Prosumer ผู้ใช้ไฟฟ้าผลิตไฟฟ้าได้เอง กระจายการผลิตพลังงานสู่ชุมชน เป็นนโยบายโรงไฟฟ้าชุมชนโดยอาศัยจุดแข็งที่แต่ละชุมชนมีวัสดุทางการเกษตรเป็นเชื้อเพลิง เช่น ฟางข้าว ซังข้าวโพด มาเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าแทนที่จะเผาทิ้งเกิดฝุ่น PM2.5 หลังจากนี้จะสนับสนุนเชื้อเพลิงจากขยะเพื่อนำมาผลิตเป็นไฟฟ้าในลำดับต่อไป


 เรื่องที่ 2 การแก้ปัญหาสินค้าเกษตรของประเทศ ซึ่งกระทรวงฯ ได้นำร่องด้วยการปรับสัดส่วนการใช้น้ำมันปาล์มดิบในดีเซล เป็น B10 เพื่อเป็นดีเซลพื้นฐานแทน B7 จะประกาศใช้ทั่วประเทศวันที่ 1 มีนาคม2563 เป็นต้นไป ซึ่งช่วยดูดซับน้ำมันปาล์มดิบได้ 2 ใน 3 ของปริมาณการผลิตทั่วประเทศ โดยกระทรวงฯ จะทำหน้าที่ดูแลสตอกของไบโอดีเซล (B100) เพื่อสร้างเสถียรภาพราคาปาล์ม หลังจากนี้พืชพลังงานถัดไปที่จะเข้ามาดูแล คือ อ้อยและมันสำปะหลังที่ใช้ผลิตเป็นเอทานอลผสมในน้ำมันเบนซินเป็นกลุ่มแก๊สโซฮอล

 เรื่องที่ 3 การวางประเทศไทยเป็น Leader ด้านพลังงาน 2 เรื่อง คือ 1.การเป็นศูนกลางหรือฮับ (Hub) ด้านการซื้อขายไฟฟ้าอาเซียน โดยซื้อไฟจาก สปป.ลาวจำหน่ายให้แก่ เมียนมา กัมพูชา มาเลเซีย เปลี่ยนบทบาทให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นเทรดเดอร์ภูมิภาค 2.การเป็นฮับด้านก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ในภูมิภาค โดย ปตท.ได้ประกาศความพร้อมดังกล่าวแล้ว

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานยังได้ชี้แจงต่อข้อสงสัยของกรรมาธิการฯ เกี่ยวกับงบประมาณของกระทรวงฯ ด้วยว่า กระทรวงฯได้รับงบประมาณจัดสรรน้อยเพียง 2,000 กว่าล้านบาท คิดเป็น 0.07%ของงบประมาณแผ่นดินรวม แต่สามารถสร้างรายได้กลับมาได้มากราว 10% ของงบประมาณ อย่างไรก็ตาม การสนับสนุนตั้งโรงไฟฟ้าชุมชนจะไม่ได้ใช้เงินงบประมาณแต่อย่างใด โดยโรงไฟฟ้าชุมชนจะมีโมเดล 3 รูปแบบ คือ โมเดลที่เอกชนลงทุนร่วมกับชุมชน โมเดลที่ผลิตใช้เองอย่างเดียวสำหรับชุมชน จะมีงบจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานสนับสนุน และโมเดลโรงไฟฟ้าขยะ โดยบริหารจัดการองค์กรบริหารส่วนท้องถิ่น (อปท.) 


นอกจากนี้ ในประเด็นพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานสรุปว่าจะเร่งรัดการฟื้นการเจรจาตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่างไทย-กัมพูชา เพื่อหาแนวทางการพัฒนาแหล่งพลังงานร่วมกัน ส่วนการรื้อถอนของแหล่งสัมปทานที่กำลังหมดอายุอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อหาทางออกโดยหลีกเลี่ยงการเข้าสู่กระบวนการอนุญาโตตุลาการ 

 ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานได้ชี้ทิศทางสำคัญของนโยบายพลังงานที่สอดคล้องกับทิศทางโลกให้คณะกรรมาธิการฯ ด้วยว่า การใช้พลังงานทดแทนจะมีบทบาทเพิ่มขึ้น การใส่ใจต่อประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อม การนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาดำเนินการเพื่อเปลี่ยนผ่านในยุค Disruption โดยเฉพาะเรื่องการสนับสนุนยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่งชณะนี้อยู่ระหว่างหารือกระทรวงที่เกี่ยวข้องเพื่อผลักดันแผน EV ของประเทศทั้งระบบออกมาช่วงต้นปีหน้า 2563 โดยจะให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบกักเก็บพลังงาน Energy Storage เพื่อผลักดันให้ประเทศเป็นผู้นำด้าน EV ระดับภูมิภาคต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

“นายกเบี้ยว” พาลูกเข้ารับทราบข้อกล่าวหา-ตร.ยัน “พีช” เจตนาทำผิดอาญา

กรณี “พีช” ลูกนายกเบี้ยว ขับรถหรูปาดหน้าชนกระบะลุงป้า ตำรวจ สภ.ลำลูกกา ยืนยันพฤติการณ์ไม่ใช่แค่ขับรถประมาท แต่เจตนาทำผิดคดีอาญา และโดนแจ้งข้อหาขับรถไม่มีใบอนุญาต เนื่องจากใบขับขี่หมดอายุตั้งแต่ปี 64 ขณะที่ล่าสุด “นายกเบี้ยว” พาลูกชายเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว

“ชัชชาติ” รับหลักฐานบางส่วนเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

“ชัชชาติ” นำทีม กทม. พบ นายกฯ รายงานคืบหน้ากู้ซากอาคาร สตง. ถล่ม ย้ำ รัฐ-เอกชน ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ขาดเหลือด้านใด เผย นายกฯ ติดตามเรื่องนี้ต่อเนื่อง พร้อมให้ความร่วมมือตำรวจเก็บหลักฐาน แนะ ไปหน้างานประสานเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานได้เลย ยอมรับ หลักฐานบางส่วนพังเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

ปิดเขาล้อมจับมือปืนลำดับ 93 หนีคดี 10 ปี

ปฏิบัติการบุกขึ้นเขาปิดล้อม จับกุมมือปืนคนสำคัญ ลำดับ 93 ค่าหัว 1 แสนบาท ก่อเหตุอุกอาจหนีคดีมา 10 ปี แต่สุดท้ายไม่รอดมือตำรวจ