รัฐสภา 16 พ.ย.- สหพันธ์การขนส่งทางบกฯ เข้ายื่นหนังสือถึง กมธ.การพลังงาน หลังราคาน้ำมันสูง ลั่น หากไม่ชัดเจนภายใน 1 ธ.ค. เตรียมยกระดับการประท้วงแบบเยอรมนีโมเดล
นายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เข้ายื่นหนังสือถึงนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และ นายกิตติกร โล่ห์สุนทร ส.ส.ลำปาง พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการการพลังงาน พร้อมแถลงการณ์ว่า ด้วยสถานการณ์ราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศไทยทุกชนิด ได้ปรับราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง พบว่ามีปัญหาเรื่องโครงสร้างราคาน้ำมันที่ไม่เป็นธรรมและการบริหารจัดการเรื่องพลังงาน สร้างภาระความเดือดร้อนแก่ประชาชนและผู้บริโภคน้ำมันทางตรงและทางอ้อม จึงต้องการยื่นข้อเรียกร้อง 5 ข้อ โดยขอให้รัฐบาลและกระทรวงพลังงาน ตรึงราคาน้ำมันดีเซล(B7 หรือ B6) ราคาขายปลีก 25บาทต่อลิตร เป็นระยะเวลา 1 ปี ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 , ลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 5 บาท เป็นระยะเวลา 1 ปี เพื่อช่วยเหลือประชาชนในยามวิกฤต โดยหารายได้จากส่วนอื่นๆ มาทดแทน , ปรับโครงสร้างราคาน้ำมันให้เป็นธรรม ยึดหลักธรรมาภิบาล ซื่อสัตย์ สุจริต ไม่เอาเปรียบประชาชน และผู้บริโภคน้ำมันในระบบผูกขาด ตัดตอนจนเกินไป , ราคา ณ โรงกลั่น ต้องเท่ากับราคาสิงคโปร์ ที่ใช้เป็นฐานอ้างอิงน้ำมันสำเร็จรูป (ราคา ณ โรงกลั่นต้องเท่ากัน) และ ในสถานการณ์วิกฤตต่างๆ ต้องลดค่าการตลาดลงกึ่งหนึ่ง เพราะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ราคาน้ำมันแพงเกินไป และเป็นการผลักภาระและสร้างกำไรทางธุรกิจที่ขาดหลักจริยธรรมและคุณธรรมทางธุรกิจกึ่งผูกขาด
ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดกิจกรรมในพื้นที่ปริมณฑล ยังสะท้อนปัญหาออกไปได้ไม่มากนัก และเพื่อเป็นการยกระดับ หากรัฐบาลไม่เปิดโต๊ะเจรจาภายในวันที่ 1 ธันวาคมนี้ ก็จำเป็นจะต้องนำโมเดลการประท้วงของเยอรมนีมาใช้ โดยเติมน้ำมันครั้งละ 20 ลิตร เดินทางเข้ามาจากต่างจังหวัด หมดตรงไหนจอดตรงนั้น ใครจะลากก็มาเอาไปเลย
“ยืนยันว่าต้องให้น้ำมันราคาลิตรละ 25 บาท ขอรัฐบาลอย่ามองข้าม เพราะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา ก็ยังไม่มีคำตอบจากรัฐบาล หากทำไม่ได้ ก็ขอให้ผู้มีความสามารถขึ้นมาบริหารแทน” นายอภิชาติ กล่าว
นายกิตติกร กล่าวต่อว่า ประเด็นดังกล่าว ก่อนหน้านี้ทางกมธ.การพลังงาน ได้มีการประชุมเพื่อหาทางออก และมีการส่งหนังสือเตือนไปยังรัฐบาลถึงความเดือดร้อนของผู้ประกอบการ แต่ยังไม่มีความคืบหน้าเกิดขึ้น ทั้งนี้ภายในสัปดาห์หน้าจะเชิญสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า หรือ สนค. มาหารือเพื่อหาทางออก ข้อไหนที่ทำได้ ก็จะเร่งทำทันที รวมทั้งเตรียมนำ 5 ข้อเรียกร้องเข้าสู่สภาฯ เพื่อผลักดันปัญหาดังกล่าวต่อไป โดนตนเชื่อว่ารัฐบาลแก้ไขปัญหาได้ แต่อยู่ที่ว่าจะทำเมื่อใดซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก หากช้าเกินไป ก็จะเกิดความเสียหายมากยิ่งขึ้น ทางกมธ.การพลังงานจะติดตามเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง.-สำนักข่าวไทย