กทม. 15 ต.ค.-ปตท. เตรียมแผนออกหุ้นกู้ปีหน้า และเร่งลงทุนโดยใช้โอกาสช่วงเงินบาทแข็งค่า
นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปตท. เร่งแผนลงทุนในโอกาสบาทแข็งค่า โดยช่วงที่เหลือของปีนี้และปีหน้ามีเม็ดเงินรวมกันราว 130,000 ล้านบาท ซึ่งมีทั้งระบบท่อก๊าซเพื่อความมั่นคง และอื่นๆ
ด้านนางสาวพรรณนลิน มหาวงศ์ธิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บมจ.ปตท. กล่าวว่า ปีหน้า ปตท. เตรียมแผนออกหุ้นกู้รองรับการลงทุนหลังจากที่ไม่ได้ออกมาหลายปี เพราะสภาพคล่องที่ผ่านมาสูงมาก แต่จะออกหุ้นกู้มากน้อยเพียงใด เป็นสกุลเงินอะไรบ้าง คงต้องดูความเหมาะสม ส่วนเรื่องเงินบาทแข็งค่าในรอบ 6 ปี ยอมรับว่าส่งผลกระทบต่อ ปตท. โดยทุก 1 บาทที่เปลี่ยนแปลงมีผลกระทบราว 2,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม จากการจัดการความเสี่ยง ประกอบกับธุรกิจกลุ่ม ปตท. เป็นดอลลาร์ลิงก์ เป็นการประกันความเสี่ยงโดยธรรมชาติด้วย จึงมีผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนน้อยลงกว่าการคาดการณ์
“ปตท.ชอบบาทอ่อน แต่ก็บริหารจัดการ โดย natural hedge บริหารยอดหนี้ให้ใกล้เคียงกับดอลลาร์ลิงค์ เมื่อบาทอ่อน ฝั่ง debt ไม่ดี แต่รายได้ดี เมื่อบาทแข็ง ฝั่ง debt ดี แต่รายได้ไม่ดี…บาทแข็งทุก 1 บาทกระทบงบ consolidate ประมาณ 2 พันล้านบาท ” นางสาวพรรณนลิน กล่าว
ทั้งนี้ ค่าเงินบาท ปรับตัวแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง โดยปลายปี 61อยู่ที่ราว 32.28 บาท/ดอลลาร์ สรอ. มาอยู่ที่ราว 30.40 บาท/ดอลลาร์ฯ ในปัจจุบัน หรือแข็งค่าราวร้อยละ 5.7 ณ สิ้นเดือน มิ.ย.62 ตามงบการเงินรวมของ ปตท.มีภาระหนี้ 4.97 แสนล้านบาท แบ่งเป็น ภาระหนี้สกุลเงินบาท 3.09 แสนล้านบาท หรือราวร้อยละ 62 และสกุลดอลลาร์และอื่น ๆ 1.88 แสนล้านบาท หรือราว ร้อยละ38
สำหรับการใช้ เงินลงทุนของ ปตท.ในปี 62 มีอัตราสูง โดยเฉพาะในส่วนของการเพิ่มทุนใน บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ ราว 1.7 หมื่นล้านบาท และในจ่ายภาษีสำหรับการขายสินทรัพย์ให้ บมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก หรือOR ราว 1.6 หมื่นล้านบาท รวมถึงการจ่ายคืนเงินกู้ราว 2.6 หมื่นล้านบาท ตลอดจนมีการลงทุนอื่น ๆ อีกตามปกติ ทำให้เงินสดเฉพาะของปตท.ปรับตัวลงสู่ระดับปกติอยู่ที่ราว 6 หมื่นล้านบาท และในปี 63 ปตท.มีแผนจะใช้เงินเพื่อรองรับการลงทุนตามแผนงาน และงบลงทุนในอนาคต (Provision) ทำให้ปตท.เริ่มพิจารณาการจัดหาเงินกู้ใหม่ หลังจากที่ไม่ได้กู้เงินเพื่อลงทุนมาหลายปีแล้ว โดยแผนการใช้เงินในโครงการต่าง ๆ หลังมีโครงการต่อเนื่องเรื่องการสร้างท่อส่งก๊าซธรรมชาติ สร้างคลังก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) แห่งที่ 2 โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 เป็นต้น ส่วนโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ยังจัดอยู่ในงบลงทุนในอนาคต ขณะที่การใช้คืนเงินกู้ในปี 63 ยังไม่มากนัก รวมถึงพิจารณาเรื่องการนำหุ้น OR เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯมาประกอบด้วย เพราะอาจมีผลต่อการจัดหาเงินทุนของ ปตท. ส่วนวิธีการจัดหาแหล่งเงินทุนในรูปแบบใดต้องพิจารณาเปรียบเทียบให้มีความเหมาะสมด้วย
นางอรวดี โพธิสาโร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลยุทธ์องค์กร บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) หรือ PTT เปิดเผยว่า ปตท.ได้หารือถึงแนวทางบริหารจัดการต้นทุนการดำเนินงานในช่วงที่อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทแข็งค่าขึ้น โดยมีแผนจะเร่งรัดกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างโครงการก่อสร้างต่างๆ ที่ต้องมีการนำเข้าอุปกรณ์และเครื่องจักรจากต่างประเทศ เช่น โครงการก่อสร้างท่อส่งก๊าซธรรมชาติ สร้างคลังก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) แห่งที่ 2 ให้สามารถดำเนินการได้เร็วขึ้น เพื่อลดต้นทุนนำเข้าสินค้า ซึ่งจะต้องหารือกับผู้รับเหมาเพื่อเจรจาขอเลื่อนระยะเวลาดำเนินโครงการให้เร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม บางโครงการหากสร้างเสร็จเร็วก็ต้องดูด้วยว่า คุมค่าหรือไม่ เพราะหลายโครงการต้องผูกพันกับการก่อสร้างโรงไฟฟ้าให้เสร็จตามสัญญา ก็ต้องหารือกับคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานด้วย หากสร้างเสร็จเร็วแล้วไม่ได้ใช้ประโยชน์จะคุมต่าหรือไม่
.-สำนักข่าวไทย