“อนุทิน” ย้ำหากมติ 27 กรรมการวัตถุอันตรายโหวตสวน 4 รมต.พร้อมลาออก

พัทลุง 12 ต.ค.-“อนุทิน” ลั่นหากมติ 27 คณะกรรมการวัตถุอันตราย โหวตสวนผู้บังคับบัญชา 4 รัฐมนตรีที่เกี่ยวพร้อมลาออก ห่วงสุขภาพ “มนัญญา” หลังออกจาก  รพ.ความดันขึ้นเพราะดันทุรังจะขจัดสารพิษอันตราย


นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย แถลงข่าวร่วมกับ 7 รัฐมนตรี พร้อมยืนยันว่า พรรคภูมิใจไทยมีจุดยืนไม่เอาสารพิษทางการเกษตรแน่นอน เพราะไม่เป็นประโยชน์กับประชาชน ทั้งเรื่องสุขภาพและการดำรงชีวิต ดังนั้น นโยบายที่รัฐมนตรีในสังกัดพรรครับผิดชอบ คือ ไม่เอาสารพิษ และคณะกรรมการวัตถุอันตรายส่วนหนึ่งก็จะขอให้ลงมติเรื่องดังกล่าวโดยเปิดเผย แต่ยืนยันว่าในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขไม่สามารถรับนโยบายสนับสนุนการใช้สารพิษในการเกษตรได้ เช่นเดียวกับในส่วนของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ไม่สนับสนุนการใช้สารพิษ แต่ไม่ขอวิเคราะห์ว่าคณะกรรมการวัตถุอันตรายทั้ง 27 คนจะมีมติในแนวทางใด และพรรคภูมิใจไทยไม่ได้ปะทะกับใคร เป็นข้าราชการประจำที่ทำงาน การตัดสินใจนั้นก็ตัดสินใจบนประโยชน์ของประชาชนและประเทศเป็นหลัก ไม่มีอะไรต้องกังวล หรือต้องชะงัก

“ทุกวันนี้ ไม่ได้รู้สึกว่าไปปะทะอะไรกับใคร ก็ทำงานปกติ ทั้งนี้ หากมติของคณะกรรมการฯสวนไม่ทำตามมติ แนวทาง 4 รัฐมนตรีของพรรคก็พร้อมแสดงสปิริตลาออก เพราะเท่ากับว่าเราไม่มีความสามารถในการปกครองให้คนเหล่านั้นปฏิบัติตามมติหัวหน้าส่วนราชการ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีสั่งการให้ไปศึกษา ซึ่ง น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ ก็ตั้งคณะศึกษาแล้ว ก็มติชัดเจน 9 ต่อ 0 ไม่เอาสารพิษ ส่วนตัวก็ได้ถามกับนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมว่าเรื่องสารพิษเป็นอย่างไร ได้รับคำยืนยันว่า ไม่เอาด้วย ก็เท่ากับว่ามั่นใจว่ามีผู้เห็นด้วย” นายอนุทิน กล่าว


ส่วนกังวลหรือไม่ที่ต้องปะทะกับกลุ่มทุนขนาดใหญ่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ได้ปะทะกับใคร คณะรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยทำงานปกติของข้าราชการประจำ ตัดสินใจบนผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศเป็นหลัก

ส่วนที่นักวิชาการจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยออกมาให้ความเห็นว่านายอนุทินขาดความรู้ความสามารถเรื่องสารพิษทำให้ขาดสตินั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ก็ไม่เป็นไร ตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารสุข สุขภาพของประชาชนเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ไม่ให้ประชาชนล้มป่วยจากการใช้สิ่งที่ไม่ถูกต้อง ตนเป็นฝ่ายบริหาร ไม่ใช่นักวิชาการ และการตัดสินใจของตนไม่ใช้อารมณ์ส่วนตัว ตัดสินใจในฐานะที่เป็นฝ่ายบริหาร                       

ช่วงหนึ่งของการแถลงข่าว นายอนุทิน ได้แสดงความเป็นห่วง น.ส.มนัญญา ว่าดังที่สุดในขณะนี้ ที่เพิ่งหายจากการอาการป่วย เครียด ความดันขึ้น เพราะความดันทุรังที่จะขจัดสารพิษอันตรายออกจากประเทศไทยให้ได้ ทำงานด้วยความเครียด ท่ามกลางความกดดัน แต่ก็ดึงสายน้ำเกลือออกมาลงพื้นที่จังหวัดพัทลุง อย่างไรก็ตาม การทำงานของรัฐมนตรีทุกคนผ่านมา 4 เดือน ไม่ติดขัด แต่เป็นห่วงสุขภาพของรัฐมนตรี เพราะ น.ส.มนัญญาป่วยไปแล้ว 1 คน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง