สบส.11 ต.ค..- กรม สบส.แนะเช็คให้ชัวร์ก่อนเข้า รพ./คลินิก ไม่หลงคำโฆษณาเกินจริง ทั้งดีกว่า เหนือกว่า หายทุกโรค เสี่ยงไม่หายและอาจเป็นอันตรายแทน ชี้หากพบเห็นให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบทันที
นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ตลาดสุขภาพและความงามของประเทศมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องในทุกๆปี ส่งผลให้อัตราการแข่งขันในด้านธุรกิจเพิ่มสูงขึ้น หลายแห่งจึงอาศัยการโฆษณาเข้ามาช่วยดึงดูดประชาชนให้เข้ารับบริการ โดยเฉพาะการโฆษณาผ่านสื่อโซเชียล อาทิ เว็บไซต์ Facebook หรือไลน์ ที่เข้าถึงประชาชนได้อย่างรวดเร็ว จึงอาจมีผู้ไม่หวังดีที่หวังเพียงตักตวงผลกำไร ใช้การโฆษณาที่เป็นเท็จ โอ้อวดเกินจริง อาศัยความไม่รู้ของประชาชน มาหลอกล่อให้เข้ารับบริการ โดยมิได้คำนึงถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดต่อตัวผู้รับบริการ ซึ่งในโลกโซเชียลนั้นมีโฆษณาของสถานพยาบาลเผยแพร่อยู่อย่างมากมาย หลายคนอาจตั้งข้อสงสัยว่าแล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าโฆษณาสถานพยาบาลชิ้นใดที่ถูกต้อง หรือเข้าข่ายโอ้อวดเกินจริง
นายแพทย์ธเรศ กล่าวต่อว่า สำหรับข้อความต้องห้ามใช้ในการโฆษณาสถานพยาบาล ที่มักพบว่ามีการนำมาใช้ในการโฆษณาอยู่บ่อยครั้งนั้น ได้แก่ เก่งที่สุด/เหนือกว่า/ผู้เชี่ยวชาญ/ระดับโลก/แห่งแรก/คืนความอ่อนเยาว์ได้ในครั้งเดียว/ถึง 99%/เห็นผลทันที/หายทุกโรค/หมอเทวดา ฯลฯ หากพบว่าโฆษณาของสถานพยาบาลใดมีการใช้ข้อความที่เหมือนหรือมีความหมายใกล้เคียงกับข้อความข้างต้นประชาชนจะต้องพิจารณาให้ดี โดยให้ตั้งข้อสงสัยว่าเป็นโฆษณาหลอกลวง โอ้อวดเกินจริง ไม่ควรรับบริการ เพราะนอกจากจะไม่ได้รับบริการตามที่โฆษณาแล้วยังสุ่มเสี่ยงว่าจะได้รับผลกระทบต่อสุขภาพ และหากอยู่ในเขตกรุงเทพฯ ให้แจ้งเบาะแสมาที่ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนกรม สบส.ทางหมายเลขโทรศัพท์ 02 193 7057 แต่หากอยู่ในส่วนภูมิภาคสามารถแจ้งได้ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ในพื้นที่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
กรม สบส.ขอเน้นย้ำให้ผู้ประกอบกิจการ/ดำเนินการสถานพยาบาลปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด หากพบมีการเผยแพร่โฆษณาหรือประกาศของสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุมัติ จะถือว่ามีความผิดตามพ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 4 พ.ศ.2559 มีโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาทและให้ปรับอีกวันละไม่เกิน 10,000 บาท จนกว่าจะระงับการโฆษณา หรือหากมีการโฆษณาโอ้อวดเกินจริง จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ปรับอีกวันละไม่เกิน 10,000 บาทจนกว่าจะระงับการโฆษณา.-สำนักข่าวไทย