เอกวาดอร์ 9 ต.ค.- สถานการณ์ชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลเอกวาดอร์ยังคงวุ่นวายอย่างหนักและยังไม่มีทีท่าว่าจะยุติลง จนรัฐบาลต้องประกาศเคอร์ฟิวตอนกลางคืน
การประท้วงต่อต้านรัฐบาลเอกวาดอร์ซึ่งดำเนินมาเป็นวันที่ 6 ยังคงเป็นไปด้วยความวุ่นวาย เมื่อวานนี้เกิดเหตุปะทะกันระหว่างผู้ประท้วงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจบริเวณใกล้กับรัฐสภาในกรุงกีโต จนรัฐบาลได้สั่งห้ามประชาชนเข้าใกล้อาคารรัฐบาลตั้งแต่เวลา 20.00 น. – 05.00 น. วันรุ่งขึ้น มูลเหตุของการประท้วงเกิดจากความไม่พอใจรัฐบาลที่ออกมาตรการรัดเข็มขัดโดยเฉพาะการยกเลิกอุดหนุนราคาน้ำมันส่งผลให้ราคาน้ำมันทะยานขึ้นอย่างรุนแรง แต่รัฐบาลยังคงยืนกรานที่จะยกเลิกอุดหนุนราคาน้ำมันต่อไปโดยมาตรการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของแผนการปฏิรูปเศรษฐกิจเพื่อแลกกับเงินกู้จำนวน 4,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือเกือบ 1.3 แสนล้านบาท จากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ
เหตุการณ์ประท้วงครั้งนี้นับเป็นปัญหาเผชิญหน้าครั้งรุนแรงที่สุดของรัฐบาลประธานาธิบดีเลนิน โมเรโน ที่บริหารประเทศมานานสองปีครึ่ง ขณะที่มีผู้ประท้วงถูกจับกุมไปแล้ว 570 คนนับตั้งแต่การชุมนุมเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ประธานาธิบดีโมเรโนกล่าวโทษว่าเหตุการณ์วุ่นวายที่เกิดขึ้นเป็นความพยายามจะก่อรัฐประหารของอดีตประธานาธิบดีราฟาเอล คอร์เรีย ซึ่งขณะนี้ลี้ภัยอยู่ในเบลเยียมโดยมีประธานาธิบดีนิโกลัส มาดูโร ของเวเนซุเอลาให้การช่วยเหลือ ซึ่งผู้นำเวเนซุเอลาออกมาปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ขณะที่นายคอร์เรียก็ปฏิเสธเช่นกัน.-สำนักข่าวไทย