“เสี่ยท็อป” โชว์คลิปบินไปฮ่องกง คุยมีภารกิจหลายอย่าง

8 ต.ค. – ความคืบหน้ากรณีพริตตี้สาวถูกนายธนณัฏฐ์ สิริปิยพร (ท็อป) อ้างเป็นเสี่ยหมื่นล้าน หลอกแต่งงานจดทะเบียนสมรส ทิ้งหนี้ไว้กว่า 3 ล้าน และยังมีผู้หลงเชื่อเสี่ยท็อปอีกหลายรายออกมาแฉพฤติกรรม ถูกหลอกพร้อมติดค้างเงินจำนวนมาก ล่าสุดมีคลิป “เสี่ยท็อป” บินไปฮ่องกง อ้างมีภารกิจสำคัญหลายอย่าง ไม่เสียเวลากับเรื่องไร้สาระ ขณะที่ครอบครัวพริตตี้สาวยังหวัง “เสี่ยท็อปหมื่นล้าน” เคลียร์หนี้สิน 


“เสี่ยท็อป” เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวครั้งแรกว่า ตัวเองมีภารกิจสำคัญหลายอย่าง ไม่ไปเสียเวลากับเรื่องไร้สาระ ทั้งเรื่องทางจีนตรวจสอบภาพเมื่อ 7 ปี ก่อนเจ้าตัวไปนั่งร่วมประชุมบอร์ด โดยอ้างว่าเป็นที่ปรึกษารัฐบาลไทย พร้อมกับตอบผู้สื่อข่าวว่า พวกคุณกำลังทำให้ประเทศชาติเสียหาย เพราะเรื่องจริงก็คือเรื่องจริง ไม่ใช่แก้ตัว เมื่อถึงเวลาจะต้องเคลียร์ เดี๋ยวแถลงข่าวก็ทราบ เพราะมีทั้งขบวนการคนร่วมผสมโรง คนสวมรอย ใช้ช่องทางสื่อ สร้างกระแส บิดเบือน ถึงไม่แถลง มีวิจารณญาณ วิเคราะห์ได้


ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปบ้านครอบครัวพริตตี้สาว ที่ ต.แสลงโทน อ.ประโคนชัย สอบถามถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น พ่อพริตตี้ให้ข้อมูลว่า ตั้งแต่เกิดเรื่องก็ไม่สามารถติดต่ออดีตลูกเขยได้เลย เบอร์ที่ให้ไว้ก็ติดต่อไม่ได้ ขณะที่แม่ของอดีตลูกเขยก็ไม่เคยติดต่อมาสอบถามเช่นกัน มีเพียงทางอำเภอ ยุติธรรมจังหวัด เข้ามาสอบถามข้อมูลเพื่อหาแนวทางช่วยเหลือ พร้อมให้กำลังใจทางครอบครัวเท่านั้น  

ขณะนี้ครอบครัวยังไม่ได้แจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจ เนื่องจากยังรอและหวังว่าอดีตลูกเขยจะออกมาแสดงความรับผิดชอบเคลียร์หนี้สินค่าจัดงานแต่งทั้งหมด 3.5 ล้านบาท ตามที่เซ็นสลักหลังไว้ในใบหย่า และขอให้คืนเช็คเงินสดสินสอด 1.6 ล้านบาท ที่หายไปในวันแต่งงาน 


หากอดีตลูกเขยรับผิดชอบทั้งหมด ทางครอบครัวก็จะไม่ติดใจเอาเรื่อง แต่หากไม่ยอมรับผิดชอบจ่ายหนี้สินที่สร้างปัญหาไว้ ทางครอบครัวก็จะหารือกันว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ในที่สุดอาจต้องพึ่งกระบวนการทางกฎหมาย เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับลูกสาวและครอบครัว อยากฝากให้อดีตลูกเขยเห็นใจทางครอบครัวด้วย    

พ่อพริตตี้สาวยังบอกอีกว่า หลังเกิดเรื่อง ครอบคัวเครียดมาก เพราะไม่รู้จะหาเงินที่ไหนไปชำระหนี้ได้ ที่สำคัญครอบครัวก็ไม่ได้เป็นคนก่อให้เกิดหนี้ดังกล่าว แต่ถูกอดีตลูกเขยหลอก อย่างไรก็ตาม หากอดีตลูกเขยมาเคลียร์หนี้ทั้งหมดแล้ว ขอให้ต่างคนต่างอยู่ดีกว่า. – สำนักข่าวไทย 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

แม่เสี่ยกำมะลอ วัย 72 ปี ยอมรับ เอือมระอา และอับอายกับพฤติกรรมสุดแสบของลูกชาย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง