กทม. 19 ก.ย. – วันพรุ่งนี้ (20 ก.ย.) เริ่มใช้กฎหมายจราจรใหม่ ห้ามตำรวจยึดใบขับขี่ผู้ทำผิดกฎจราจรอีกต่อไป ผู้เกี่ยวข้องเชื่อว่าจะช่วยอำนวยความสะดวกและลดปัญหาการกระทบกระทั่งกันระหว่างประชาชนกับเจ้าหน้าที่ได้
ภาพการกวดขันวินัยจราจร หรือการตั้งด่านตรวจ นับตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (20 ก.ย.) อาจจะต้องเปลี่ยนไป เมื่อ พ.ร.บ.จราจรทางบกฉบับใหม่ มีผลบังคับใช้ ทำให้ตำรวจไม่สามารถเรียกเก็บ หรือยึดใบขับขี่ผู้ที่ทำผิดกฎจราจรได้อีก ทำได้เพียงออกใบสั่งตามฐานความผิด เพื่อให้ผู้ใช้รถไปเสียค่าปรับภายหลัง
นายตำรวจที่ทำงานด้านการจราจรมากว่า 10 ปี เชื่อว่ากฎหมายใหม่จะช่วยลดปัญหาการกระทบกระทั่งกันระหว่างตำรวจกับผู้ใช้รถได้ เนื่องจากที่ผ่านมามีความไม่เข้าใจกันในข้อกฎหมาย โดยเฉพาะเรื่องอำนาจในการตรวจยึดใบขับขี่ ที่ผู้รู้ทางโลกโซเชียลให้คำแนะนำแบบผิดๆ จนกลายเป็นเหตุกระทบกระทั่งโต้เถียงกันมาแล้วหลายครั้ง
สอดคล้องกับผู้ใช้รถที่มองว่าการไม่ให้ตำรวจยึดใบขับขี่เป็นเรื่องดีที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้รถ ที่สำคัญยังป้องกันใบขับขี่สูญหายหลังถูกตรวจยึดไป เหมือนที่เจ้าตัวเคยประสบและต้องไปทำใบขับขี่ใหม่มาแล้ว
รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลกำกับดูแลงานจราจร อธิบายว่า กฎหมายใหม่ที่มีผลบังคับใช้พรุ่งนี้ เปิดโอกาสให้ผู้ใช้รถไม่จำเป็นต้องแสดงใบขับขี่ตัวจริง แต่สามารถใช้ใบขับขี่อิเล็กทรอนิกส์ ผ่านแอปลิเคชัน DLT QR LICENCE ของกรมการขนส่งทางบก หรือสำเนาภาพถ่ายใบขับขี่รุ่นใหม่ที่ย้ำว่าต้องมีคิวอาร์โค้ดเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบในฐานข้อมูลได้ว่าเป็นใบขับขี่ตัวจริงหรือไม่
ส่วนปัญหาการไม่ยอมชำระค่าปรับตามใบสั่ง ซึ่งตามกฎหมายเดิมแม้จะมีการยึดใบขับขี่ไว้เสมือนตัวประกันให้ไปชำระค่าปรับ แต่ในจำนวนใบสั่งแต่ละปีกว่า 13 ล้านใบ พบว่ามีเพียงร้อยละ 20 หรือประมาณ 2.6 ล้านใบ ที่มีผู้ไปชำระค่าปรับ ล่าสุดกรมการขนส่งทางบกและตำรวจ เตรียมมาตรการอายัดทะเบียนรถของผู้ที่ไม่ไปชำระค่าปรับ โดยการเชื่อมฐานข้อมูลใบสั่งกับกรมการขนส่งทางบก ผ่านระบบพีทีเอ็ม ซึ่งใกล้เสร็จสมบูรณ์ 100% แล้ว และจะเริ่มดีเดย์บังคับใช้ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้.- สำนักข่าวไทย