ตัดสินประหารชีวิต “เสี่ยอ้วน” ยิง “สปาย-ฟอส” ลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต

ชลบุรี 18 ก.ย.-ศาลตัดสินประหารชีวิต “เสี่ยอ้วน-บ่าว-บอล” ร่วมฆ่า “สปาย-ฟอส” บริเวณหน้าพระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี แต่จำเลยทั้ง 3 ให้การเป็นประโยชน์ จึงลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต



ศาลจังหวัดพัทยานัดอ่านคำพิพากษาในคดีที่อัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายปัญญา ยิ่งดัง หรือเสี่ยอ้วน พร้อมพวกรวม 6 คน ตกเป็นจำเลยที่ 1-6 ในคดีร่วมกันสังหารโหด น.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ หรือสปาย และนายอนันตชัย จริตรัมย์ หรือฟอส ซึ่งเป็นคู่รัก บริเวณหน้าพระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2561

โดยเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้เบิกตัวจำเลยทั้งหมดจากเรือนจำพิเศษพัทยา เพื่อรับฟังคำพิพากษา เช่นเดียวกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตที่เดินทางมารับฟังคำพิพากษา ซึ่งครอบครัวของหนึ่งในผู้เสียชีวิตคือนายอนันตชัย ยอมรับว่ายังทำใจกับการสูญเสียไม่ได้ เนื่องจากที่ผ่านมาลูกชายเป็นเสาหลักของครอบครัว ส่วนทางคดีต้องการให้จำเลยได้รับโทษสูงสุด คือประหารชีวิต ถึงแม้ว่าในชั้นสืบพยานที่ผ่านมา จำเลยที่ 1 หรือเสี่ยอ้วน ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนยิงและไม่มีการวางแผนล่วงหน้า


ด้านนางวันเพ็ญ นาเมืองรักษ์ แม่น้องสปาย บอกว่าอยากให้จำเลยทุกคนถูกลงโทษสูงสุด และหากต้องสู้ในชั้นอุทธรณ์ก็จะสู้ให้ถึงที่สุด พร้อมเปิดเผยว่าก่อนออกจากบ้านได้จุดธูปบอกกับดวงวิญญาณของน้องสปาย และเชื่อว่าวิญญาณลูกสาวยังไม่ได้ไปไหน เพราะมาสิงร่างน้องสาวตนเองอยู่บ่อยครั้ง ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว น้องสปายมาสิงร่างน้องสาวและบอกว่าอยากขอโทษ อยากขอขมาแม่ที่ไม่สามารถทำตามที่เคยบอกไว้ว่าจะไม่ทำให้แม่ลำบาก

ล่าสุดศาลได้พิพากษาให้ประหารชีวิต “เสี่ยอ้วน” รวมถึงมือยิง คือนายณรงค์ วรินทรเวช หรือบ่าว และนายเกียรติศักดิ์ สุรางแสงมีบุญ หรือบอล แต่จำเลยทั้ง 3 ให้การเป็นประโยชน์ จึงลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต

ส่วนนายสายันต์ ศรีสุข มือชี้เป้า ศาลสั่งจำคุกตลอดชีวิต แต่ให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษเหลือจำคุก 50 ปี ส่วนจำเลยอีก 2 คน ศาลสั่งจำคุกคนละ 16 ปี พร้อมให้จำเลยทั้งหมดชดใช้ครอบครัวผู้เสียชีวิต โดยครอบครัวฟอส ชดเชย 732,000 บาท และครอบครัวสปาย ชดเชย 731,400 บาท.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง