เมืองทองธานี 16 ก.ย.- นายกฯ แนะข้าราชการทุกภาคส่วน ร่วมบูรณาการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ ย้ำรัฐบาลพยายามดูแลน้ำท่วมเต็มที่ ชี้โซเชียลวิจารณ์ไม่ลงพื้นที่อีสานแต่ไปใต้ เป็นการสร้างความขัดแย้ง ระบุพยายามแก้ปัญหา แต่มีการโจมตีรัฐบาล ระบุต่อให้เรียกใครที่อยู่เมืองนอกกลับมาก็ทำไม่ได้
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานเปิดการสัมมนาบุคลากรภาครัฐ ยุทธศาสตร์ชาติ ภาคปฏิบัติ : ร่วมขยับขับเคลื่อนภาครัฐ เพื่อประชาชน (National Strategy in Action: Integrated Implementation for THAIS) ที่จัดขึ้นโดยสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.)
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า งานวันนี้เป็นการสร้างความรู้ความเข้าใจแบบบูรณาการ ซึ่งเป็นหลักสำคัญ เชื่อว่าทุกคนเข้าใจวิสัยทัศน์ในการทำงาน ที่ต้องทำความเข้าใจ และทำงานร่วมกัน เชื่อมโยงไปยังหน่วยงานอื่น ๆ ข้าราชการทุกคน จำเป็นต้องร่วมกันคิด ร่วมกันทำ ร่วมกันบริหาร หลายอย่างที่พูดกันตามสื่อมวลชนนั้น ไม่สามารถทำได้ทั้งหมด ข้าราชการต้องทำความเข้าใจว่าบางเรื่องไม่สามารถทำได้และทุกคนต้องร่วมกันบูรณาการทั้งหมด ทั้งเรื่องปรองดอง ปฎิรูป และยุทธศาสตร์ชาติ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการปฎิรูปตัวเองให้ทันการเปลี่ยนแปลงโลกดิจิทัล โดยตั้งคำถามกลับว่า ทุกคนปฎิรูปตัวเองหรือยัง ตนปฎิรูปตัวเองทุกวัน ทุกคนต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง และพัฒนาให้เกิดการรองรับการทำงานในอนาคต
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นนายกฯ เลยซักวัน คิดว่าเป็นประชาชนคนหนึ่ง อยากให้กติกาบ้านเมือง กฎหมายบ้านเมืองเป็นแบบไหน ทราบดีว่าทุกคนไม่ชอบให้มีการสั่งงานจำนวนมาก แต่จะทำอย่างไรในเมื่อประเทศยังมีปัญหาต่าง ๆ มากมาย ตนจึงมีหน้าที่คอยกระตุ้น แต่ยังมีคนส่วนหนึ่งที่ยังไม่รักประเทศ คิดถึงแต่ตัวเอง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า 5 ปีที่ผ่านมาประชาชนจะเคยชินกับสิ่งที่เคยได้รับ โดยไม่สนใจว่าสิ่งนั้นผิดหรือถูก ประชาชนไม่เข้าใจระบบการเบิกจ่ายเงินของราชการ เช่น การเกิดปัญหาอุทกภัย มีการตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมรัฐบาลไม่แจกเงินช่วยเหลือ 5,000 บาทไปเลย ซึ่งต้องสร้างความเข้าใจว่าไม่สามารถทำได้ และเมื่อคนบางกลุ่มมองว่านายกฯ ไม่ไปดูแล ก็กลายเป็นปัญหา ดังนั้นจะทำอย่างไรให้คนไทยรู้กฎหมายและระเบียบ เวลาลงพื้นที่ ส่วนใหญ่ก็มีแต่เรียกร้องจะขอเงิน หากประเทศไทยมีงบประมาณจำนวนมากก็อยากจะมอบให้
“เรื่อง น้ำท่วม มีคนพูดว่า ทำไมนายกฯ ไม่ไปช่วย ทำไมไปภาคใต้ ไม่ไปภาคอีสาน สิ่งเหล่านี้คือการสร้างความขัดแย้งในสังคมขึ้นทุกวัน ดังนั้นทุกคนต้องช่วยกันทำความเข้าใจตั้งแต่ระดับพื้นที่” นายกฯ กล่าว และว่า การบริหารจัดการน้ำต้องมาดูเรื่องกักเก็บน้ำว่าเพียงพอหรือไม่ 5 ปีที่ผ่านมาใช้งบฯ ประจำปี ดำเนินการมาโดยตลอด แต่ประชาชนไม่ทราบ หรือถ้ารัฐบาลต้องการให้ไปขุดพื้นที่บางแห่งเพื่อใช้เป็นแหล่งกักเก็บน้ำ แต่ประชาชนบางรายก็ไม่ยอม
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาต่างๆ เช่น การดูแลแรงงานนอกระบบ การบริหารจัดการน้ำ ซึ่งมีการโจมตีรัฐบาล และเรื่องนี้ไม่มีใครสามารถทำได้ ต่อให้เรียกใครที่อยู่เมืองนอกกลับมาก็ทำไม่ได้ ใครก็ไม่รู้ เพราะทำแบบเดิมก็เจ๊งแบบเดิม หากตนพูดมาก ก็จะทำให้อารมณ์เสีย และนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี บอกให้อารมณ์ดีไว้ เพราะในวันพุธนี้จะได้อารมณ์ดี ๆ
ช่วงท้าย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอพูดเปิดอกกับทุกคน ถึงเวลาแล้ว ที่เราควรต้องเปลี่ยนประเทศด้วยตัวของเราเอง ภายใต้หลักการ และกฎหมาย ไม่ใช่เอากฎหมายมาขัดแย้งกันแบบนี้ เพราะแบบนี้ไปกันไม่ได้
“เดี๋ยวเรื่อง รัฐธรรมนูญบ้าง เดี๋ยวเรื่องกฎหมายบ้าง เดี๋ยวเรื่องโซเชียลฯ บ้าง พูดกันมาได้ในสื่อฯ แล้วเอามาโจมตีกันในสภาฯ บางทีมันก็ไม่ใช่ ผมว่ามันไม่ถูกต้อง ประเทศเดินหน้าไม่ได้ ไม่ว่าใครจะเป็นผู้นำก็เดินหน้าไม่ได้ จะกี่รัฐบาลก็เดินหน้าไม่ได้ แก้ไขปัญหาไม่ได้ ทั้งที่โอกาสมันมีอยู่เยอะแยะตอนนี้ ทุกคนก็อยากมาลงทุนอีกเท่าไหร่ แต่ก็ยังตีกันอยู่ ไม่กี่เรื่อง มันน่ารำคาญเท่านั้นเอง ไม่ใช่อะไรหรอก ยังไงก็ต้องทำต่ออยู่แล้ว ผมไม่อยู่แล้วใครจะอยู่ ถามสิ กลับไปดูรัฐธรรมนูญให้ดีก็แล้วกัน จะเอาผมแบบนี้ หรือจะเอาผมแบบก่อน ต้องได้พูดบ้าง ไม่งั้นอกจะแตก ไม่รู้จะพูดกับใคร วันนี้ไม่ได้ด่าใคร ไม่ได้ว่าใคร ไม่ได้โทษใครทั้งสิ้น เพราะผมเป็นผู้รับผิดชอบแต่ผู้เดียว แต่ผมขอบ่นหน่อย ไม่ใช่บ่นหรอก ขอเล่าให้ฟัง ถ้าไม่เข้าใจกันก็แก้ปัญหาไม่ได้” นายกฯ กล่าว.-สำนักข่าวไทย
