เปิดธุรกิจพุทธพาณิชย์ คนจีนหลอกคนจีน

ชลบุรี 12 ก.ย. – ธุรกิจพุทธพาณิชย์ จำหน่ายพระเครื่องและวัตถุมงคลตามวัดหลายแห่ง กำลังถูกตรวจสอบ หลังกลุ่มคนจีนหัวใสใช้ศรัทธาและความเลื่อมใส โก่งราคาวัตถุมงคลสูงเกินกว่าความเป็นจริง มีนักท่องเที่ยวจีนหลงเชื่อจำนวนมาก



วันนี้ (12 ก.ย.) สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง แถลงจับกุมผู้ต้องหาชาวจีน 7 คน ที่ทำหน้าที่จำหน่ายพระเครื่อง วัตถุมงคล และของที่ระลึก ให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีน ในวัดเขาบุญมีดาราราม หรือวัดทุ่งคา หลังชุดสืบสวนตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดชลบุรี ได้เบาะแสและตรวจสอบจนแน่ชัดว่า ที่อาคารอเนกประสงค์ วัดทุ่งคา อ.บางละมุง มีชาวจีนลักลอบจำหน่ายวัตถุมงคล ขณะเข้าจับกุมพบผู้ต้องหาชาวจีนโกนศีรษะ นุ่งขาวหุ่มขาว เจ้าหน้าที่จึงให้เปลี่ยนชุด และควบคุมตัวไปดำเนินคดีข้อหาลักลอบทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต


ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ให้ข้อมูลว่า ผู้ต้องหาจะทำตัวเป็นผู้เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในการแนะนำวัตถุมงคลให้นักท่องเที่ยวชาวจีน บริเวณจุดจำหน่ายจะติดภาพบุคคลมีชื่อเสียง หรือภาพถ่ายของคนจีนที่เคยมาเช่าบูชาวัตถุมงคล เพื่อกระตุ้นให้ทัวร์จีนเร่งควักกระเป๋าจ่ายเงินค่าศรัทธาและความเชื่อเร็วยิ่งขึ้น  


เจ้าหน้าที่ขยายผลพบว่า ชาวจีนที่ลอบจำหน่ายวัตถุมงคลที่วัดทุ่งคา เดินทางเข้าประเทศโดยวีซ่านักท่องเที่ยว เมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา จากนั้นมีขบวนการนำพามาที่วัด ได้เงินค่าจ้างคนละ 20,000-40,000 บาท/เดือน และเปอร์เซ็นต์จากการจำหน่าย สนนราคาวัตถุมงคลบางชิ้นสูงเฉียดแสนบาท ทั้ง 7 คนที่ถูกส่งตัวฟ้องศาลแขวงพัทยา พิพากษาปรับคนละ 2,000 บาท เพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร ผลักดันกลับประเทศ และขึ้นบัญชีดำห้ามเข้าประเทศอีกต่อไป

จ.ชลบุรี ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมออกมาตรการป้องกันคนจีนใช้วัดไทยทำธุรกิจพุทธพาณิชย์ เช่น ให้วัดทำสัญญาเช่าที่ธรณีสงฆ์กับบุคคล หรือกลุ่มบุคคลที่ต้องการเข้ามาค้าขายภายในวัด วัตถุมงคลที่นำมาจำหน่าย ทางวัดต้องเป็นผู้จัดสร้างขึ้นเท่านั้น และให้ติดราคาวัตถุมงคลแต่ละชิ้นให้ชัดเจน โดยเจ้าอาวาสวัดต้องติดตามควบคุมอย่างใกล้ชิด หากเกิดปัญหาขึ้น เจ้าอาวาสจะต้องรับผิดชอบ

วัดทุ่งคา เป็น 1 ในวัด 16 แห่งใน จ.ชลบุรี ที่พบเบาะแสชาวจีนเข้ามาทำธุรกิจพุทธพาณิชย์ ส่วนวัดบางละมุง วัดสว่างฟ้าพฤฒาราม วัดคีรีวนาราม และสำนักปฏิบัติธรรมเขาพงพราน รวมถึงวัดอื่นๆ เจ้าหน้าที่ตรวจไม่พบการกระทำผิด คาดว่าไหวตัวทัน จึงหลบหนีไป ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จึงสั่งขยายผลหาขบวนการ หากพบพระในวัดมีส่วนเกี่ยวข้องให้ดำเนินคดีด้วย. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง