ดีเอสไอ 9 ก.ย.-ดีเอสไอ สั่งเดินหน้าสอบพยานและลงพื้นที่หาข้อมูลคดี ฆ่า “บิลลี่” เพิ่มเติม ปัดยังไม่ขอตอบออกหมายเรียก ‘ชัยวัฒน์’ กับพวกรวม 5 คน ด้านอธิบดี ดีเอสไอ มั่นใจสรุปสำนวนเสร็จก่อนกำหนด 3 เดือน
ภายหลังกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เรียกประชุมคณะทำงานเพื่อประมวลรวบรวมข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการที่ลงพื้นที่บวกกับข้อมูลพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์จากส่วนกลาง ตั้งแต่เวลาประมาณ 09.30 น. นั้น
หลังเสร็จสิ้นการประชุม เวลาประมาณ 11.30 น. พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีดีเอสไอ ได้ลงมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ระบุว่า การประชุมวันนี้ทุกฝ่ายได้กำชับให้พยายามเร่งรัดการสอบสวน โดยพยายามจะให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว ในที่ประชุมได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสอบพยานที่เหลือให้แล้วเสร็จอย่างเร็วที่สุด รวมถึงยังมีบางพื้นที่ที่เจ้าหน้าที่จะต้องลงไปเก็บหาข้อมูลเพิ่มเติม
ส่วนคำถามว่าสอบพยานไปแล้วกี่ปาก รองอธิบดีดีเอสไอ ระบุสั้นๆว่า จำไม่ได้ว่ากี่ปาก ซึ่งพยานที่สอบเป็นกลุ่มพยานที่ระบุว่าเห็นเหตุการณ์ หรืออาจเป็นพยานแวดล้อมในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุ
ส่วนหลักฐานในขณะนี้ที่ดีเอสไอมีนั้น มากเพียงพอที่จะนำไปสู่หมายเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการระบุกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือกระทำความผิดได้แล้วหรือยัง พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าวว่า ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด เพราะอยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวน โดยในขั้นตอนการออกหมายเรียกยังไม่มีการกำหนดกรอบระยะเวลาที่ชัดเจน แต่พยายามจะเร่งดำเนินการในขั้นตอนนี้ให้เร็วที่สุด
ส่วนกรณีที่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (6 ก.ย.)นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 จ.อุบลราชธานี (ผอ.สบอ.9) เป็นผู้ที่อยู่ 1 ใน 5 รายชื่อคนที่อยู่ในชุดปฏิบัติงานในช่วงปี 2557 ซึ่งเป็นช่วงที่มีการจับกุม นายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ ออกมาเปิดเผยคลิปเสียง “ดาบเท่ง” โดยอ้างว่าเป็นตำรวจกองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 7 ได้เข้าไปคุยกับภรรยา นายบุญแทน บุษราคัม หนึ่งในเจ้าหน้าที่ชุดควบคุมตัว บิลลี่เมื่อปี 2557 ใช้คำพูดเชิงข่มขู่ ระบุว่าตอนนี้นายชัยวัฒน์ ขู่ฆ่านายบุญแทน ให้ระวังตัวและยังเกลี้ยกล่อมให้นายบุญแทนมามอบตัวให้ชิงมาสารภาพและไปเป็นพยานให้ดีเอสไอ แล้วจะมีการคุ้มครองพยาน แถมยังได้เงินในการคุ้มครองพยานอีกด้วย เรื่องนี้ รองอธิบดีดีเอสไอ ระบุเห็นข่าวจากแค่ในทีวี ยังไม่ทราบรายละเอียดเพราะเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับดีเอสไอ รวมทั้งยังไม่ได้มีการประสานขอข้อมูลนายดาบตำรวจผู้นี้ตอนนี้ดีเอสไอขอทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดเท่านั้น
ด้าน พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า วันนี้ได้เร่งรัดชุดสอบ สวนทุกชุดให้เร่งสรุปคำให้การของพยานตลอดจนพยานบุคคล พยานแวดล้อม และหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ทุกรายการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว มั่นใจว่าจะสามารถสรุปสำนวนได้เร็วๆ นี้ และเร็วกว่าเดิมที่เคยกำหนดไว้ว่าจะสรุปสำนวนภายใน 2-3 เดือน
ขณะที่แหล่งข่าว เปิดเผยว่าที่ประชุมได้หารือถึงการอนุมัติหมายค้นเพื่อเก็บพยานหลักฐานสำคัญในคดี ในส่วนผู้ต้องสงสัยที่ร่วมกันก่อเหตุอุ้มฆ่านายบิลลี่ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะขออนุมัติศาลให้ออกเป็นหมายจับ โดยมาตรา 66 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ระบุเหตุที่สามารถออกหมายจับได้ต้องมีหลักฐานตามสมควรว่าบุคคลใดน่าจะกระทำความผิดอาญา ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกินสามปี หรือ มีหลักฐานตามสมควรว่าบุคคลใดน่าจะกระทำความผิดอาญา และมีเหตุอันควรเชื่อว่าจะหลบหนี หรือจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือก่อเหตุอันตรายประการอื่น ที่ผ่านมาพนักงานสอบสวนพบพฤติการณ์กลุ่มผู้ต้องสงสัยยุ่งเหยิงกับพยานค่อนข้างมาก แต่หากมีข้อท้วงติงว่าผู้ต้องหามีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ดีเอสไอ อาจจะพิจารณาออกหมายเรียกให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหา.-สำนักข่าวไทย