โจรควงปืนจี้แบงก์กวาดเงิน 1.4 แสนขึ้นเก๋งหนี

จันทบุรี 30 ส.ค.-โจรฉายเดี่ยว ควงปืนบุกจี้ธนาคารทหารไทย กลางเมืองจันท์ กวาดเงิน 1.4 แสนบาท วิ่งขึ้นเก๋งเพื่อนที่มาจอดรอในวัดขับหลบหนี ตำรวจเร่งแกะรอยวงจรปิดไล่ล่า


วันนี้ เวลา 15.33 น. พ.ต.อ.คมน์สรณ์ มาบำรุง ผู้กำกับการ สภ.เมืองจันทบุรี นำกำลังตำรวจสืบสวน ชุดป้องกันและปราบปราม เจ้าหน้าที่วิทยาการกองพิสูจน์หลักฐาน เข้าทำการตรวจสอบเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนบุกจี้ธนาคารทหารไทย (TMB) สาขาถนนเบญจมราชูทิศ อ.เมืองจันทบุรี โดยคนร้ายได้เงินไปจำนวน 146,310 บาท แล้วหลบหนีไปขึ้นรถเก๋งสีแดง ที่เพื่อนจอดรอไว้ในวัดจันทนาราม ห่างจากจุดก่อเหตุไปกว่า 300 เมตร แล้วหลบหนีไป


ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบคนร้ายเป็นชายรูปร่างผอม สวมเสื้อแจ็คเก็ตสีดำ แบบมีฮูดคลุมศีรษะแขนยาว ใช้แมสปิดจมูก ได้บุกเข้ามาหลังจากทางธนาคารได้ปิดให้บริการ โดยอาศัยจังหวะที่แม่บ้านของธนาคารได้เปิดประตูทางเข้า วิ่งเข้ามาก่อเหตุ พร้อมกับใช้อาวุธสั้นที่ใช้ผ้าห่อคลุมไว้ทำการชมขู่ พร้อมกับยิงขึ้นฟ้าจำนวน 2 นัด ขณะที่คนร้ายลงมือก่อเหตุไม่มี รปภ.ของธนาคาร แต่มีลูกค้าที่ยังติดพันให้บริการอยู่สองคน ซึ่งคนร้ายได้เข้าไปกวาดเงินบริเวณเคาน์เตอร์ ก่อนวิ่งมายังประตูแต่พบว่าประตูกระจกของธนาคารปิดล็อกอยู่ จึงกระโดดถีบ 1 ครั้ง แต่ไม่สำเร็จ คนร้ายจึงใช้อาวุธปืนยิงใส่ 1 นัด จนกระจกแตกละเอียด และวิ่งหลบไป โดยได้รับบาดเจ็บบริเวณแขนจากกการโดนเศษกระจกประตูบาด ก่อนวิ่งหลบหนีไปทิศทางชุมชนริมน้ำจันทบูรณ์ หลังธนาคาร แล้ววิ่งไปข้ามสะพาน มุ่งหน้าเข้าไปภายในวัดจันทนาราม ซึ่งคาดว่าเป็นจุดนัดหมายที่เพื่อนขับรถเก๋งมาจอดรอแล้วพากันขับหลบหนีไป 

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรบริเวณใกล้เคียงหน้าธนาคาร พบคนร้ายได้ขับรถยนต์เก๋งสีแดงมาส่งคนร้ายอีกคนที่เป็นผู้ลงมือก่อเหตุ บริเวณใกล้กับธนาคาร ก่อนหน้าที่ธนาคารจะปิดประตูแล้วจึงขับรถไปจอดรอบริเวณวัดจันทนาราม ซึ่งเป็นจุดนัดหมาย ห่างจากธนาคารไปประมาณ 300 เมตร ต่อมา เจ้าหน้าที่วิทยาการกองพิสูจน์หลักฐานได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบปลอกกระสุนปืน แบบออโตเมติก จำนวน 2 ปลอก ตกที่หน้าเคาน์เตอร์และหน้าประตูทางเข้า โดยที่บริเวณบันไดหน้าประตูพบรอยเลือดของคนร้ายหยดเป็นทางยาว เจ้าหน้าที่จึงเก็บไปตรวจสอบ   


จากการสอบปากคำ น.ส.อลิสา แสงอาวุธ ลูกค้าที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าให้ฟังว่า ขณะเกิดเหตุตนเองพร้อมกับลูกค้าอีกราย กำลังฝากเงินอยู่ จังหวะนั้นคนร้ายได้วิ่งเข้ามา ซึ่งเร็วมาก ก่อนจะบอกให้ส่งเงินมา แล้วจึงยิงปืนขึ้นฟ้า ซึ่งตนเองพร้อมกับเจ้าหน้าที่ธนาคาร ตกใจจึงก้มหมอบลงกับพื้น ก่อนที่คนร้ายจะยิงประตูทางเข้าแล้วหลบหนี อย่างไรก็ตาม หลังการก่อเหตุตำรวจได้ระดมกำลังออกติดตามหาเบาะแสคนร้าย โดยการแกะรอยจากกล้องวงจรปิด ตามเส้นทางที่คาดว่าคนจะใช้หลบหนี แต่จนขณะนี้ยังไร้วี่แวว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง