fbpx

ศาลยกฟ้องทักษิณ คดีร่วมทุจริตการปล่อยกู้สินเชื่อ ธ.กรุงไทย

ศาลฏีกา 30 ส.ค.- “ทักษิณ” ส่งทนายสู้คดีร่วมทุจริตการปล่อยกู้สินเชื่อ ธ.กรุงไทยกับกลุ่มกฤษฎามหานคร   ศาลยกฟ้อง เหตุพยานโจทก์ไม่มีน้ำหนักให้เชื่อว่า ซุปเปอร์บอส คือ ทักษิณ


ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง เมื่อเวลา 14.50 น. นายวิชัย เอื้ออังคณากุล รองประธานศาลฎีกา เจ้าของสำนวน พร้อมองค์คณะผู้พิพากษา 9 คน ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีนายทักษิณ ชินวัตร ร่วมทุจริตการปล่อยกู้สินเชื่อ ธ.กรุงไทยฯ กับกลุ่มกฤษฎามหานคร คดีหมายเลขดำ อม.3/2555 อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร อายุ 70 ปี อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลยที่ 1 และนายวิโรจน์ นวลแข อดีตกรรมการผู้จัดการธนาคารกรุงไทย และบริษัทในเครือของบริษัทกฤษดามหานคร จำกัด (มหาชน) กับพวกรวม 27 ราย 

(กลุ่มนายวิโรจน์ และผู้บริหาร ธ.กรุงไทยฯ กับ บมจ.กฤษดามหานครฯ ศาลพิพากษาแล้วเมื่อวันที่ 26 ส.ค.58 จำคุกทั้งสิ้น 24 คน ยกฟ้อง 2 คน) เป็นจำเลย ในความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157  ความผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502   ความผิด พ.ร.บ.การธนาคารพาณิชย์ พ.ศ.2505  ความผิด พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 และความผิด พ.ร.บ.บริษัท มหาชน จำกัด พ.ศ.2535 


กรณีเมื่อวันที่ 8 ก.ย.46  – 30 เม.ย.47 ได้อนุมัติสินเชื่อให้นิติบุคคลซึ่งเป็นจำเลยร่วมในคดีนี้ นำไปซื้อที่ดินโดยไม่มีการวิเคราะห์ถึงฐานะทางการเงิน และความสามารถในการชำระหนี้ รวมทั้งวัตถุประสงค์ของการให้สินเชื่อ  แหล่งเงินทุนที่จะชำระหนี้ และไม่มีการควบคุมติดตามดูแลสินเชื่อ หลังการอนุมัติโดยใกล้ชิด รวมทั้งไม่เรียกหลักประกันให้คุ้มหนี้ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของ ธ.กรุงไทยฯ ผู้เสียหาย โดยพวกจำเลยนำเงินไปใช้ประโยชน์ส่วนตัวโดยทุจริตเป็นเหตุให้ ธ.กรุงไทยฯ ได้รับความเสียหาย เป็นเงิน 10,054,467,480 บาท

อัยการสูงสุด ยื่นฟ้องคดีเมื่อวันที่ 13 มิ.ย.55 แต่ระหว่างที่จะเริ่มจะพิจารณาคดีปรากฏว่านายทักษิณได้หลบหนีคดี ศาลฎีกาจึงมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีเฉพาะส่วนของนายทักษิณออกจากสารบบไว้ชั่วคราว (พักการพิจารณา) จนกว่าจะได้ตัวกลับมาดำเนินคดี แล้วต่อมาในปี 2560 ได้มีการออกกฎหมายใหม่ พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2560 (วิ อม.) ซึ่งให้อำนาจศาลที่จะพิจารณาคดีโดยไม่มีตัวจำเลยได้ นายเข็มชัย ชุติวงศ์ อัยการสูงสุด จึงยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาฯ เมื่ิอเดือน พ.ย.60 ขอให้นำคดีนี้ที่ศาลสั่งจำหน่ายคดีชั่วเคราวเฉพาะในส่วนของ นายทักษิณ จำเลยที่ 1 ขึ้นมาพิจารณาใหม่โดยไม่มีตัวจำเลย ตาม วิ อม. มาตรา 28

คดีนี้นายทักษิณ จำเลยได้มอบอำนาจให้ทนายความร่วมโต้แย้งคดีเป็นสำนวนแรกและสำนวนเดียวที่ได้ถูกยื่นฟ้องคดีในศาลฎีกาฯ ซึ่งวันนี้ทนายความก็ได้มาฟังคำพิพากษาด้วย


องค์คณะฯพิเคราะห์แล้ว  องค์คณะเสียงข้างมากเห็นว่า ข้อโต้แย้งประเด็นข้อกฎหมายที่นายทักษิณต่อสู้ว่า คตส.ไม่มีอำนาจไต่สวนนั้น ศาลรัฐธรรมนูญได้เคยวินิจฉัยไว้แล้วในคดีอื่น ซึ่งเป็นคำวินิจฉัยที่ 5/2551 ผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญผูกพันการพิจารณาของศาลฎีกาฯ ด้วย

ส่วนนายทักษิณ จำเลยที่ 1 กระทำผิดหรือไม่ องค์คณะเห็นว่าพยานของอัยการโจทก์ ซึ่งเป็นอดีตกรรมการของธนาคารกรุงไทย ผู้เสียหาย เบิกความเกี่ยวกับซุปเปอร์บอสหรือบิ๊กบอส เห็นชอบและสั่งการให้อนุมัติสินเชื่อให้กลับกลุ่มกฤษฎามหานคร จำเลยที่ 19 ยังไม่ชัดเจนว่าเป็นจำเลยที่ 1 หรือไม่ เพราะพยานได้รับฟังมาจากจำเลยที่ 2 ในคดีนี้ พยานปากนี้จึงยังไม่มีน้ำหนักว่านายทักษิณ จำเลยที่ 1 สั่งการให้จำเลยที่ 2-4 ซึ่งเป็นผู้บริหารธนาคารกรุงไทยที่มีอำนาจอนุมัติสินเชื่อให้กลุ่มกฤษฎามหานคร จำเลยที่ 19 จึงพิพากษายกฟ้อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายทักษิณ ที่ผ่านมาศาลฎีกาฯ ได้พิจารณาคดีโดยไม่มีตัวจำเลยตามกฎหมายและได้มีคำพิพากษาในคดีสำนวนอื่นก่อนหน้านี้ไปแล้วทั้งสิ้น 3 คดี

ประกอบด้วย 1.คดี ป.ป.ช.ยื่นฟ้อง กล่าวหาทุจริตปล่อยกู้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงค์) ให้กับรัฐบาลพม่าวงเงิน 4,000 ล้านบาท ศาลฎีกาฯ มีคำพิพากษาเมื่ิอวันที่ 23 เม.ย.62 ให้จำคุก 3 ปีโดยไม่รอลงอาญา

2.คดี ป.ป.ช.ยื่นฟ้อง กล่าวหาร่วมทุจริตโครงการออกสลากพิเศษเลขท้าย 2 และ 3 ตัว (หวยบนดิน) ศาลฎีกาฯ พิพากษาเมื่อวันที่ 6 มิ.ย.62 ให้จำคุก 2 ปีโดยไม่รอลงอาญา

3.คดี ป.ป.ช. ยื่นฟ้อง กล่าวหาขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ปี 2546 ได้เสนอให้กระทรวงการคลัง สมัยที่ ร.อ.สุชาติ เชาว์วิศิษฐ เป็น รมว.คลัง เข้าเป็นผู้บริหารแผนฟื้นฟูบริษัทอุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทยจำกัด (มหาชน) หรือ ทีพีไอ ซึ่งศาลฎีกาฯ มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 29 ส.ค.61 ให้ยกฟ้องนายทักษิณ

โดยยังมีคดีที่ศาลฎีกาฯ กำลังพิจารณาอีก คือคดีที่อัยการสูงสุด ยื่นฟ้องกล่าวหาแก้ไขค่าสัมปทานโทรศัพท์มือถือ – ดาวเทียม เป็นภาษีสรรพสามิต เอื้อประโยชน์ธุรกิจบริษัทชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ทำให้รัฐเสียหาย 6.6 หมื่นล้านบาท เมื่อปี 2551.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553

พายุโซนร้อนซูลิก

ฤทธิ์พายุโซนร้อนซูลิก ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่นครพนม

ฤทธิ์พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่ จ.นครพนม เจ้าหน้าที่ต้องเร่งเดินเครื่องสูบน้ำลงน้ำโขง

อุตุฯ เตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ฝนถล่มหลายจังหวัด

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ภาคเหนือ อีสาน กลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรง