ขอนแก่น 29 ส.ค. – ราคาข้าวเหนียวที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ ส่งผลกระทบต่อประชาชนทั่วไปและผู้ประกอบการ้านค้า โดยมีภาวะแล้งต่อเนื่องเป็นปัจจัยซ้ำเติม ขณะที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดขอนแก่นลงพื้นที่ตรวจสตอกโรงสีข้าวเป็นวันแรก ยังไม่พบการกักตุน
เจ้าของร้านอาหารอีสาน อ.พล จ.ขอนแก่น ที่เป็นชาวนาด้วย ระบายความอัดอั้นตันใจ หลังปรากฏการณ์ข้าวเหนียวแพงทำลูกค้าเข้าร้านน้อยลงในวันที่ต้นทุนสูงขึ้น จากราคาซื้อข้าวสารขนาด 49 กิโลกรัม กระสอบละ 1,100 บาท ช่วงต้นปี ปัจจุบันพุ่งสูง 2,200 บาท หรือจากราคากิโลกรัมละ 22 บาท เกือบแตะ 45 บาท แม้จะขายในราคากระติบละ 10 บาทเท่าเดิม แต่ยอมรับว่าลดปริมาณลงตามต้นทุนที่พุ่งสูงกว่าเท่าตัว
ชาวบ้านหนองมะเขือ อ.พล จ.ขอนแก่น เผชิญภัยแล้งรุนแรง 2 ปีติดต่อกัน พื้นที่ส่วนใหญ่ปลูกข้าวเหนียว ปีที่แล้วได้ผลผลิตร้อยละ 50 ปีนี้เสียหายทั้งหมด ข้าวเหนียวที่ปรับตัวสูงขึ้นช่วงนี้ไม่ได้ทำให้ชาวนาดีขึ้น เพราะภัยแล้งทำให้มีข้าวไม่พอกิน จึงไม่เหลือจำหน่าย และกำลังจะได้ซื้อข้าวเหนียวในราคาที่แสนแพง
วันนี้เจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดขอนแก่น ออกตรวจโรงสีดูสภาพความเป็นจริงวันแรก หลังให้รายงานสตอกข้าวเหนียว 39 แห่ง มีโรงสีที่เหลือข้าวเหนียว 25 แห่ง รวมกว่า 2,100 ตัน ขณะที่ผลตรวจร้านค้าส่งค้าปลีกจำหน่ายข้าวสารบรรจุถุงขนาด 1 กิโลกรัม ราคาอยู่ระหว่าง 36-50 บาท ส่วนร้านสะดวกซื้อ ศูนย์การค้าบางแห่งไม่มีข้าวสารเหนียวบรรจุถุงจำหน่าย สัปดาห์หน้าอาจปรับตัวสูงขึ้นอีก ผลการตรวจโรงสีวันนี้ยังไม่พบการกักตุน. – สำนักข่าวไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
►ข้าวเหนียวเหลืออยู่จริง 4.2 หมื่นตัน
►กรมการค้าภายในเตรียมทำข้าวสารเหนียว 5 กก. กระจายผ่านร้านธงฟ้าประชารัฐ