2 กลุ่มยักษ์ใหญ่ปิโตรเคมีตั้งเป้าหมายชัดสู่ “Circular Economy”

กรุงเทพฯ 26 ส.ค. – ผู้ผลิตปิโตรเคมียักษ์ใหญ่ของไทย ทั้ง บมจ.พีทีทีโกลบอลเคมิคอล (จีซี ) และกลุ่มเอสซีจี ตั้งเป้าหมายชัดผลักดันแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ตลอดวงจรการผลิต-บริโภค-นำกลับมาใช้ใหม่ให้คุ้มค่า



ในงาน “SD Symposium 10 Years: Collaboration for Action” ระดมสมองลุยแก้วิกฤติทรัพยากรด้วยแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน ”รณรงค์การใช้ให้คุ้ม แยกให้เป็น ทิ้งให้ถูก” เพื่อการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าตลอดวงจรการผลิต โดยกุญแจความสำเร็จ คือ ระบบโครงสร้างพื้นฐาน การสร้างความรู้ความเข้าใจ การพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยี และการกำจัดขยะ พร้อมเตรียมยื่นข้อเสนอถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อให้การจัดการขยะเป็นวาระแห่งชาติ


นายคงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้นจีซี ในฐานะแกนนำธุรกิจปิโตรเคมี กลุ่ม ปตท. กล่าวว่า กลุ่ม ปตท.ตั้งเป้าหมายร่วมกันในการลดภาวะโลกร้อน โดยลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ร้อยละ 20 ใน 10 ปี หรือภายในปี 2573 และจีซียังตั้งเป้าหมายจะเพิ่มสัดส่วนลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อกำลังผลิต​ ตั้งเป้าลดลงร้อยละ 50 ภายในปี 2593  โดยตามแผนดำเนินการทั้งการรณรงค์ให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน การทำแผนจากพนักงานเสนอแนวคิด และเชื่อมโยงมายังเครือข่ายภายนอก เพื่อให้เกิดความสำเร็จและผลักดันแผนธุรกิจร่วมกันทั้งเน้นลดการปลดปล่อยของเสีย ลดการใช้ทรัพยากรทั้งพลังงานและน้ำ และส่งเสริมการนำกลับมาใช้ใหม่ รวมถึงส่งเสริมการร่วมทุนเศรษฐกิจชีวภาพ 

สำหรับแผนงานสำคัญ ได้แก่ การวางแผนแนวทางแก้ไขขยะพลาสติกที่จะเกิดขึ้นจากกำลังผลิตของจีซี ประมาณ 3 ล้านตัน/ปี จะเป็นขยะพลาสติกประมาณร้อยละ 10 หรือ 300,000 ตัน/ปี ดังนั้น จีซีจึงประกาศชัดจะยกเลิกการผลิตพลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้ง 150,000 ตัน/ปี ใน 5 ปีข้างหน้า โดยในส่วนนี้จะนำไปส่งเสริมการผลิตพลาสติกที่คงทน เช่น ท่อ พลาสติกเพื่อการหล่อชิ้นใหญ่ เป็นต้น ส่วน อีก 60,000 ตัน/ปี จะร่วมทุนตั้งโรงงานรีไซเคิลพลาสติกที่เป็นมาตรฐานระดับโลกได้เป็นระดับพลาสติกรีไซเคิลเพื่อบรรจุภัณฑ์อาหาร ส่วนปริมาณที่เหลือได้มีการวางแผนดำเนินการรูปแบบอื่น ๆ ที่ร่วมกับพันธมิตรเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ เช่น โครงการอัพไซเคิลดิโอเชียนในไทย โครงการเปลี่ยนขยะเป็นจีวรพระ เป็นต้น


นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี กล่าวว่า ปี 2561 เอสซีจีสามารถนำของเสียอุตสาหกรรมมาแปรรูปเป็นวัตถุดิบทดแทน 313,000 ตันของเสีย/ปี และแปรรูปเป็นเชื้อเพลิงทดแทน 131,000 ตันของเสีย/ปี และปี 2562 ยังคงเดินหน้าการนำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนมาใช้ในการดำเนินธุรกิจต่อไป โดยตั้งเป้าการลดการผลิตพลาสติกชนิดใช้ครั้งเดียว (Single-use Plastic) จากร้อยละ 46 เหลือร้อยละ 20 ภายในปี 2568 และเพิ่มสัดส่วนบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่สามารถรีไซเคิลได้เป็นร้อยละ 100 ภายในปี 2568 โดยดำเนินการหลายรูปแบบ และจำเป็นแผนปฏิบัติการเพื่อสู่เป้าหมายที่ชัดเจน หนึ่งในแผน คือ จะศึกษาถึงการจัดตั้งโรงงานรีไซเคิลมาตรฐานระดับโลกด้วย

อย่างไรก็ตาม การสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนให้เกิดขึ้นได้จริงนั้น สิ่งสำคัญไม่ใช่เพียงการขับเคลื่อนของรัฐบาลด้วยระบบโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) โดยเฉพาะการออกกฎหมายและการบริหารจัดการระบบจัดเก็บขยะที่เข้มงวด ซึ่งด้วยความเชื่อมั่นว่า “การสร้างการมีส่วนร่วม” ของทุกภาคส่วนจะเป็นกุญแจสำคัญ ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา จึงเป็นเรื่องน่ายินดีที่ได้เห็นการตื่นตัวของพันธมิตรกว่า 45 ราย ประกอบด้วยองค์กรความร่วมมือระดับโลก 5 ราย ภาครัฐ 3 ราย ภาคเอกชน 29 แห่ง โรงเรียนและชุมชน 8 แห่ง ที่ร่วมทำให้เกิดโมเดลการดำเนินธุรกิจตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน เพื่อใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและแก้ปัญหาขยะได้ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำอย่างเป็นรูปธรรมใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมก่อสร้าง อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ รวมถึงความร่วมมือแก้ไขปัญหาขยะทะเล

“การขยายตัวของประชากรโลกที่คาดว่าจะสูงขึ้นถึง 9,700 ล้านคนภายในปี 2593 นำไปสู่ความต้องการบริโภคที่เพิ่มขึ้นมหาศาล  ขณะที่ทรัพยากรโลกมีจำกัด โดยคนไทยหนึ่งคนสร้างขยะเฉลี่ย 1.15 กิโลกรัม/วัน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ปี 2561 ประเทศไทยมีขยะถึง 28 ล้านตัน หากขาดการจัดการที่ดี ก็จะมีปัญหาขยะไหลสู่ทะเล จนเกิดการสูญเสียมากมาย ดังกรณีพะยูนมาเรียม ดังนั้น แนวคิดCircular Economyสนับสนุนการหมุนเวียนทรัพยากรที่ใช้แล้วกลับเข้าสู่กระบวนการผลิต (Make-Use-Return) จึงเป็นทางออกที่ช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวได้ จากการใช้ทรัพยากรและพลังงานให้คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพสูงสุดตลอดกระบวนการ รวมถึงการ “ใช้ให้คุ้ม แยกให้เป็น ทิ้งให้ถูก” ไม่ทิ้งในแม่น้ำลำคลองหรือทะเล เพื่อส่งต่อทรัพยากรของโลกสู่รุ่นลูกรุ่นหลานต่อไป” นายรุ่งโรจน์ กล่าว

ที่ผ่านมาเอสซีจีได้นำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนมาประยุกต์ใช้การดำเนินธุรกิจ ผ่าน 3 กลยุทธ์หลัก  คือ 1. Reduce และ Durability คือ การลดใช้ทรัพยากรในกระบวนการผลิตและการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้มีอายุการใช้งานได้ยาวนานขึ้น 2. Upgrade และ Replace คือ การพัฒนานวัตกรรมเพื่อทดแทนสินค้าหรือวัตถุดิบชนิดเดิม ด้วยสินค้าหรือวัตถุดิบชนิดใหม่ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้ใช้ทรัพยากรน้อยลงหรือนำไปรีไซเคิลได้มากขึ้น เช่น การพัฒนาวัสดุก่อสร้างที่ใช้งานได้โดยก่อให้เกิดของเสียบริเวณหน้างานก่อสร้างน้อยที่สุด และ 3. Reuse หรือ Recycle คือ การเพิ่มความสามารถในการหมุนเวียนสินค้าที่ใช้งานแล้วกลับมาใช้ใหม่ การร่วมมือกับร้านค้า Modern Trade และซุปเปอร์มาเก็ตรับกล่องหรือเศษกระดาษกลับมารีไซเคิลเพิ่มขึ้น และการออกแบบสูตรการผลิตเม็ดพลาสติก (Formulation) โดยนำมาผสมกับเม็ดพลาสติกจากเทคโนโลยี SMX ของเอสซีจีที่ช่วยเพิ่มคุณสมบัติของพลาสติกรีไซเคิลให้ดีขึ้น และสามารถเพิ่มสัดส่วนของเม็ดพลาสติกรีไซเคิลได้มากขึ้นถึงร้อยละ 30.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ