ทำเนียบรัฐบาล 14 ส.ค.- คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร. เสนอรัฐบาลสานต่องานจากรัฐบาลก่อนหน้า รวม 6 ข้อ เพื่อขับเคลื่อนประเทศ
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผย ภายหลังคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เข้าพบนายกรัฐมนตรีที่ตึกไทยคู่ฟ้า ว่า เนื่องในโอกาสที่มีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ภายหลังการเลือกตั้ง กกร.มีมติให้จัดทำข้อเสนอของภาคเอกชนต่อรัฐบาล เพื่อเป็นกรอบแนวทางการสานต่อการดำเนินงานที่ต่อเนื่องมาจากรัฐบาลชุดเดิมและเพื่อให้รัฐบาลได้รับทราบแนวทางการแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจที่มาจากมุมมองของภาคเอกชนเพื่อประกอบการตัดสินใจเชิงนโยบายในการยกระดับเศรษฐกิจของไทยให้สามารถแข่งขันได้ในเวทีโลกจนถึงการพัฒนาด้านสังคมเพื่อให้ประเทศเติบโตได้อย่างยั่งยืน
สำหรับ ข้อเสนอมี 6 ข้อ ประกอบด้วย การเสริมสร้างความร่วมมือภาครัฐและเอกชน โดยเสนอให้มีการยกระดับการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชนในระดับต่างๆได้แก่ การปรับปรุงโครงสร้างและแนวทางการทำงานของคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) ระดับต่างๆ รวมถึงการมีส่วนร่วมในการจัดสรรงบประมาณในการขับเคลื่อนโครงการต่างๆ อีกทั้งเสนอให้มีการสนับสนุนการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์อย่างครบวงจร (purchase to pay) และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลต่างๆ
การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันภาคเอกชน โดยขอให้ยกระดับผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมหรือเอสเอ็มอี ทั้งในด้านสินค้าและบริการให้มีคุณภาพและมาตรฐานสากลรวมถึงการรณรงค์และสนับสนุนการซื้อสินค้าที่ผลิตในประเทศไทย (Made in Thailand) การส่งเสริมการตลาดทางออนไลน์และการเพิ่มการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่เพียงพอ โดยขอให้ภาครัฐสนับสนุนให้ครอบคลุมทุกด้าน รวมถึงภาคธุรกิจเกษตร ภาคธุรกิจบริการ ภาคการค้า ด้านดิจิทัลและด้านการเงินที่ต้องการสนับสนุนให้มีขีดความสามารถทางการแข่งขัน
การพัฒนาระบบบริหารจัดการภาครัฐ เสนอให้จัดสรรงบประมาณด้านต่างๆอย่างเพียงพอ เพื่อพัฒนาระบบบริหารภาครัฐ เช่น ปรับปรุงการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานภาครัฐ พัฒนาทักษะบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญ จัดทำระบบโครงสร้างพื้นฐานกลางของศูนย์ข้อมูลภาครัฐและโครงการต่างๆเพื่อมุ่งไปสู่การเป็น e-Government เป็นต้น
การสนับสนุนโครงการที่สำคัญของภาครัฐให้ดำเนินการต่อเนื่องโดยมุ่งเน้นการดำเนินการของโครงการต่างๆที่ได้ทำมาแล้ว เช่น การเร่งรัดการขับเคลื่อนโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกหรืออีอีซี โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน เป็นต้น รวมทั้งเร่งรัดการแก้ไขปัญหาจากการออกประกาศผังเมือง เร่งปรับปรุงกฎหมาย กฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคในการประกอบธุรกิจ เป็นต้น
พร้อมเสริมสร้างธรรมาภิบาลความรับผิดชอบต่อสังคม เสนอให้รัฐพิจารณายกเลิกกฎหมายที่ไม่จำเป็นการส่งเสริมการพัฒนาและรักษาสิ่งแวดล้อม การสนับสนุนนโยบายและการขับเคลื่อนการต่อต้านทุจริตคอรัปชั่นในทางปฏิบัติอย่างจริงจังและต่อเนื่องรวมทั้งปรับปรุงวิธีการจ่ายเงินสวัสดิการของภาครัฐ
สุดท้ายคือ กกร.เสนอ ยกระดับทักษะความรู้และคุณภาพชีวิตทรัพยากรมนุษย์ โดยเสนอให้รัฐบาลส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต การปฏิรูประบบการศึกษาโดยปรับปรุงระบบการเรียนการสอนรูปแบบใหม่เป็น e-learning เพื่อการพัฒนาศักยภาพของคน การจัดหลักสูตรการศึกษาโดยเสริมเนื้อหาด้านคุณธรรมและจริยธรรม การปรับด้านการจัดระเบียบการเรียนการสอนระบบทวิภาคีและสหกิจศึกษาให้เกิดความร่วมมืออย่างจริงจัง การสร้างแรงจูงใจในการยกระดับฝีมือของบุคลากรทุกระดับ การสนับสนุนให้ทุกโรงเรียนจัดการเรียนภาษาอังกฤษอย่างจริงจังและการเตรียมการรองรับสังคมผู้สูงวัยเป็นต้น ทั้งนี้ยังเสนอให้แก้ไขปรับปรุงกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคในทางปฏิรูปด้วย . – สำนักข่าวไทย