กรุงเทพฯ 31 ก.ค. – กบง.นัดแรกของ “สนธิรัตน์” เดินหน้าแผน “พลังงานของทุกคน” ช่วยเหลือรากหญ้า ยืดเวลาราคาบี 20 ต่ำกว่าบี 7 อัตรา 5 บาทต่อลิตร อีก 2 เดือนใช้เงินหนุนเพิ่มอีก 1 พันล้านบาท สั่ง ปตท.ตรึงราคาแอลพีจีครัวเรือน-เอ็นจีวีต่อ 2 เดือน เตรียมรื้อแผนพีดีพีหนุนชาวบ้านผลิตไฟฟ้าใช้เอง
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) วันนี้เห็นชอบแนวทางส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี 20 ด้วยการต่ออายุส่วนต่างราคาให้บี 20 ต่ำกว่าบี 7 ในอัตรา 5 บาท/ลิตร เป็นระยะเวลา 2 เดือน จากเดิมสิ้นสุดวันนี้ (31 ก.ค) เป็นสิ้นสุด 30 กันยายน 2562 เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกปาล์ม แก้ปัญหาปาล์มล้นตลาด และ เพื่อลดค่าครองชีพของประชาชน ช่วยสร้างเสถียรภาพปาล์มน้ำมันที่ขณะนี้ผลปาล์มดิบราคาตกต่ำเหลือกว่า 2 บาทต่อกิโลกรัม และน้ำมันปาล์มดิบ (ซีพีโอ) มีสตอกสูงกว่า 300,000 ตัน ซึ่งจะใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ามาอุดหนุนเพิ่มอีกประมาณ 1,000 ล้านบาท
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ได้สั่งให้กรมธุรกิจพลังงานดำเนินการศึกษาอย่างชัดเจนว่านำปาล์มมาใช้ผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงที่ชัดเจนระยะยาวอย่างไร โดยใช้บี 10 เป็นน้ำมันพื้นฐาน และใช้บี 20 เป็นน้ำมันเพื่อรถบรรทุกขนาดใหญ่ และหลังจากนั้นจะไปหารือกับกระทรวงที่เกี่ยวข้อง เพื่อวางแผนระยะยาวในการทำแผนพัฒนาปาล์มอย่างยั่งยืน เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงการคลัง โดยเป้าหมายจะทำให้ราคาผลปาล์มดิบในประเทศไทยมีราคาสูงกว่าราคาตลาดโลก
ปัจจุบันมีผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 จำนวน 13 ราย จำหน่ายบี 20 โดยแบ่งเป็น Fleet 532 แห่ง สถานีบริการ 1,181 แห่ง ส่งผลให้การใช้บี 20 เพิ่มขึ้นจากเฉลี่ย 0.030 ล้านลิตรต่อวัน ในเดือนกรกฎาคม 2561 เป็นเฉลี่ย 5.067 ล้านลิตรต่อวันในปัจจุบัน ใช้เงินกองทุนน้ำมันฯ อุดหนุนไปแล้ว 1,686 ล้านบาท และคาดว่าเดือนสิงหาคมยอดใช้จะเพิ่มเป็น 6 ล้านลิตรต่อเดือน เงินอุดหนุนอยู่ที่ 478 ล้านบาทต่อเดือน เดือนกันยายน ยอดใช้บี 20 เพิ่มเป็น 7 ล้านลิตรต่อเดือน เงินอุดหนุนอยู่ที่ 617 ล้านบาทต่อเดือน ทั้งนี้ การใช้บี100 ปัจจุบันเพิ่มขึ้นจากเฉลี่ย 4.103 ล้านลิตรต่อวัน ในเดือนกรกฎาคม 2561 เป็นเฉลี่ย 5.215 ล้านลิตรต่อวัน ในปัจจุบัน โดยราคา CPO เริ่มมีแนวโน้มลดลง จาก 21.87 บาทต่อกิโลกรัม ในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม 2562 มาอยู่ที่ 16.75 บาทต่อกิโลกรัม ในวันที่ 26 กรกฎาคม 2562
ขณะเดียวกัน กบง.ได้เห็นชอบแนวทางการช่วยเหลือราคาแอลพีจีสำหรับหาบเร่แผงลอยและเอ็นจีวี ต่อเนื่องไปอีก 2 เดือน โดยส่วนนี้ ปตท.เป็นผู้อุดหนุนแอลพีจีประมาณ 30 ล้านบาทต่อเดือน โดยกลุ่มหาบเร่แผงลอยได้รับการอุดหนุนไม่เกิน 75 กก.ต่อเดือน หรือถังขนาด 15 กก.จำนวน 5 ถัง โดยได้ส่วนลดไม่เกิน 36 บาทต่อถัง หลังจากนั้นรัฐบาลจะมีการนำการช่วยเหลือไปอยู่ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยที่แท้จริงต่อไป ซึ่งจะเป็นการช่วยเหลือตรงจุดอย่างแท้จริง โดยกลุ่มหาบเร่ฯ ผู้มีบัตรสวัสดิการฯก็จะได้รับการอุดหนุนเพิ่มเติมจากปัจจุบันในบัตรสวัสดิการฯ ได้รับการอุดหนุนลดราคาแอลพีจี 45 บาทต่อ3 เดือน
ส่วนแผนพัฒนากำลังไฟฟ้าระยะยาว หรือพีดีพี 2018 จะมีการทบทวนอย่างแน่นอน โดยเป้าหมาย คือ ให้ประชาชนร่วมผลิตไฟฟ้าพลังงานทดแทนใช้เองและจำหน่ายเข้าระบบ โดยจะพัฒนาให้เท่าทันเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงและลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม โดยแผนด้านพลังงานทั้งหมด รวมถึงข้อเสนอของผู้ตรวจการแผ่นดินเรื่องการดำเนินการให้รัฐมีสัดส่วนการผลิตไม่น้อยกว่าร้อยละ 51 ภายใน 10 ปี นอกจากนี้ ทางนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาหารือที่กระทรวงพลังงานสัปดาห์หน้า.-สำนักข่าวไทย