นายกฯ แถลงนโยบายต่อรัฐสภา

หอประชุมใหญ่ทีโอที 25 ก.ค.-นายกรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ยึดหลักสำคัญ 4 ประการในการบริหารประเทศ ตั้งเป้าแก้ปัญหาปากท้องให้ประชาชนมีรายได้เพียงพอต่อการดำรงชีพ ลดความเหลื่อมล้ำ โดยช่วงแรกที่นายกรัฐมนตรีเริ่มแถลงนโยบาย มีการประท้วงเล็กน้อยจากฝ่ายค้าน


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลง 12 นโยบายหลัก และ 12 นโยบายเร่งด่วน ของรัฐบาลต่อรัฐสภาเป็นครั้งแรก โดยระบุว่าจะมุ่งพัฒนาประเทศให้หลุดพ้นจากกับดักประเทศรายได้ปานกลาง ดูแลประชาชนอย่างทั่วถึง แก้ไขปัญหาปากท้อง ลดความเหลื่อมล้ำคนไทยทุกช่วงวัย จะต้องมีความพร้อมทั้งในด้านหลักคิด คุณธรรม และจริยธรรม และมีศักยภาพที่จะดำเนินชีวิตในศตวรรษที่ 21 ต้องร่วมกันสร้างการเติบโตเชิงคุณภาพ ไม่ใช่การเติบโตเชิงปริมาณ

นายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งว่า การบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล มุ่งเน้นการพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง เสริมสร้างความเข้มแข็งและแก้ไขปัญหาของภาคส่วนต่างๆ ภายในประเทศ เพื่อให้ประเทศไทยมีภูมิคุ้มกัน มีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะเผชิญกับสถานการณ์ความไม่แน่นอนจากปัจจัยต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถก้าวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง และมีความเข้มแข็งในระยะยาว ส่งเสริมให้ประเทศไทยมีบทบาทมากขึ้นในประชาคมโลก มีบทบาทนำในการขับเคลื่อนความยั่งยืนในประชาคมโลก ผ่านการพัฒนาบทหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อเป้าหมายของการพัฒนาที่ยั่งยืน จะทำให้ประเทศไทยมีความมั่้นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เพื่อให้บรรลุตามวิสัยทัศน์และเป้าหมายที่กำหนดไว้ในยุทธศาสตร์ชาติ โดยการบริหารราชการแผ่นดินในช่วง 4 ปี ของรัฐบาลจะยึดหลักการสำคัญ 4 ประการ ได้แก่ 1.น้อมนำปฐมบรมราชโองการในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นหลักในการบริหารประเทศ 2.ยึดมั่นในการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 3.พัฒนาประเทศตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร 4.ทำให้เกิดการบรูณาการการทำงานระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน และภาคีการพัฒนาต่างๆ ในลักษณะประชารัฐ


ทั้งนี้ ก่อนเริ่มการประชุม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางมาถึงหอประชุมใหญ่ ทีโอที ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส เพื่อเข้าร่วมในการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา และเมื่อสื่อมวลชนถามว่า วันนี้มีความตื่นเต้นหรือไม่สำหรับการแถลงนโยบายวันแรก นายกรัฐมนตรี ตอบสั้นๆ เพียงว่า “อยู่มา 5 ปีแล้ว” และไม่ตอบคำถามว่า จะสมัครสมาชิกพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ ภายหลังพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้สมัครแล้ว โดยได้ยิ้มให้ผู้สื่อข่าวแทน

นายกรัฐมนตรียังได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ข้อความว่า ก่อนการแถลงฯ เช้านี้ ขอให้พี่น้องประชาชน เชื่อมั่นในความตั้งใจของรัฐบาล อย่างเต็มเปี่ยมที่จะนำพานโยบายต่างๆ ไปสู่การปฏิบัติ เป็นรูปธรรม จับต้องได้ ตนและรัฐบาลมีความจริงใจ อยากให้ทุกคนเข้าใจว่านโยบายของรัฐบาลคืออะไร การบริหารราชการ เกี่ยวข้องกับอะไรบ้าง และรัฐบาลจะทำงานอย่างไร หลังจากนี้ เราจะบริหารประเทศอย่างเต็มที่ เต็มประสิทธิภาพ เพื่อบ้านเมืองของเรา และคนไทยทุกคน”


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง

“เอกภพ” เข้าพบ พนง.สอบสวน หลังถูกออกหมายจับ

“เอกภพ สายไหมต้องรอด” เข้าพบ พนง.สอบสวน หลังถูกออกหมายจับปมพยานเท็จดิไอคอน ยันบริสุทธิ์ใจ หากช่วยเหลือประชาชนแล้วโดนจับก็พร้อมรับ