ธปท. 18 ก.ค. – เนชั่นแนลดิจิทัลไอดี ยืนยันความปลอดภัย และพร้อมเป็นตัวกลางเชื่อมต่อข้อมูลพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ให้ภาครัฐและเอกชน ด้าน ตลท.เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มดิจิทัลไอดี สามารถเปิดบัญชีโดยไม่มีกระดาษได้ทุกที่ทุกเวลา
นางสาวสุธีรา ศรีไพบูลย์ รักษาการประธานบริษัท ตัวแทนบริษัท เนชั่นแนลดิจิทัลไอดี จำกัด เปิดเผยว่า บริษัท เนชั่นแนลดิจิทัลไอดี จำกัด พร้อมทำหน้าที่การเป็นตัวกลางให้ภาครัฐและเอกชนเชื่อมต่อข้อมูลในการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ (National Digital ID ) เพื่อให้การทำธุรกรรมทางดิจิทัลมีประสิทธิภาพ มีความน่าเชื่อถือ และได้รับการรับรองทางกฎหมายในการทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งการทำงานของระบบ NDID มีความปลอดภัย เป็นระบบโครงสร้างพื้นฐานที่สนับสนุนการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยลูกค้าซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลต้องให้การยินยอมก่อนการดำเนินการใด ๆ ระบบ NDID ไม่มีการรวมศูนย์เก็บข้อมูล ข้อมูลจะถูกเก็บแบบกระจายศูนย์ภายใต้หน่วยงานที่ดูแลข้อมูลนั้น ๆ จึงมั่นใจได้ว่าจะไม่ได้เห็นข้อมูลใด ๆ ของลูกค้า
“NDID จะสามารถยืนยันตัวตนแท้จริงของผู้ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ช่วยลดขั้นตอน ลดต้นทุน ที่ต้องให้ลูกค้าหรือผู้ขอใช้บริการมาแสดงตน ช่วยให้เกิดการบริการที่สะดวก รวดเร็วและประหยัดเวลา”นางสาวสุธีรา กล่าว
ระบบ NDID มีการพัฒนาและทดสอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และจะเริ่มใช้กับบริการเปิดบัญชีเงินฝากที่มีการพิสูจน์และยืนยันตัวตนลูกค้าข้ามธนาคาร โดยปัจจุบันธนาคารต่าง ๆ อยู่ระหว่างพัฒนาบริการสำหรับลูกค้า คาดว่าจะเริ่มการทดสอบการให้บริการจริงในวงจำกัด ภายใต้กรอบ Regulatory Sandbox ของ ธปท.ต้นไตรมาส 4 ปี 2562 ทั้งนี้ ขึ้นกับความพร้อมของแต่ละธนาคาร ซึ่งในอนาคต NDID มีแผนจะขยายการพิสูจน์และยืนยันตัวตนจากบุคคลธรรมดาไปสู่นิติบุคคลและชาวต่างชาติระยะต่อไป
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า บริษัท ฟินเน็ต อินโนเวชั่น เน็ตเวิร์ค จำกัด (FinNet) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดตัวระบบเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มของบริษัท เนชั่นแนลดิจิทัลไอดี จำกัด เพื่อให้ผู้ประกอบการในภาคการเงินยืนยันตัวตนของลูกค้าในกระบวนการเปิดบัญชีด้วยวิธีดิจิทัลได้สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และมีต้นทุนที่ ทั้งนี้ ประชาชนทั่วไปจะได้รับประโยชน์ โดยสามารถเปิดบัญชีโดยไม่มีกระดาษได้ทุกที่ทุกเวลา ยืนยันตัวตนด้วยวิธีดิจิทัล ไม่จำเป็นต้องแสดงตนแบบพบหน้า ภายในสิ้นปี 2562 จะมีผู้ประกอบการทั้งบริษัทหลักทรัพย์ บริษัทจัดการลงทุน บริษัทประกันชีวิต และบริษัทฟินเทคกว่า 50 รายที่แสดงความสนใจใช้บริการ.-สำนักข่าวไทย