ป.ป.ส.แจงเผาทำลายยาเสพติดของกลางโปร่งใส ตรวจสอบได้

ป.ป.ส.15 ก.ค.-เลขาฯ ป.ป.ส.ยืนยันการเผาทำลายยาเสพติดของกลางโปร่งใส ตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน  หลังมีผู้โพสต์แสดงความสงสัยผ่านสังคมออนไลน์  


จากกรณีที่มีการโพสต์ข้อสงสัยของประชาชนผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดยตั้งข้อสงสัยเป็นคำถามถึงภาพการเผาทำลายของกลางยาเสพติด ปี 2562 ที่ผ่านมาว่าไม่ตรงกับที่ตนเคยเห็น ทั้งลักษณะรูปร่าง ขนาดเม็ดของยาบ้า และลักษณะการบรรจุใส่ถุงก่อนนำไปเผาทำลายนั้น    


นายนิยม เติมศรีสุข  เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.)กล่าวว่า กระบวนในการส่งยาเสพติดของกลางไปตรวจพิสูจน์และเผาทำลายนั้นไม่มีช่องว่างให้ยาเสพติดเล็ดลอดออกไปได้เพราะการปฏิบัติในแต่ละขั้นตอนนั้นมีความเข้มงวดรัดกุมและมีการตรวจสอบซึ่งกันและกันในทุกขั้นตอน 


โดยตั้งแต่ขั้นของการจับยึด ทดสอบยืนยันว่าเป็นยาเสพติดเบื้องต้น นับจำนวนและชั่งน้ำหนัก นำส่งยาเสพติดของกลางให้พนักงานสอบสวน พนักงานสอบสวนรับยาเสพติดของกลาง พนักงานสอบสวนนำยาเสพติดของกลางส่งสถานตรวจพิสูจน์ สถานตรวจพิสูจน์รับยาเสพติดของกลางไว้ตรวจพิสูจน์ การรายงานผลการตรวจพิสูจน์ การส่งยาเสพติดของกลางที่เหลือจากการตรวจพิสูจน์ไปเก็บรักษา 

การนำของกลางยาเสพติดที่เก็บรักษาออกมาทำลาย และการทำลายของกลางยาเสพติด ทุกขั้นตอนไม่มีการดำเนินการด้วยบุคคลเดียว แต่กระทำโดยคณะบุคคลที่มีการตรวจสอบซึ่งกันและกันตลอดในแต่ละขั้นตอน ดังนั้นหากเกิดความผิดพลาดคลาดเคลื่อนในขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่ง จะไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ จึงขอให้พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นในการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ว่าได้ดำเนินการอย่างถูกต้อง มีความโปร่งใส และพร้อมที่จะให้ตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน 

เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวเพิ่มว่า สำหรับปริมาณยาเสพติดที่จับยึดได้มากขึ้นนั้น สะท้อนสถานการณ์2 ประการ ประการแรกความต้องการยาเสพติดในประเทศโดยเฉพาะยาบ้ายังคงมีอยู่และความพยายามของขบวนการค้าในการกระตุ้นให้มีการใช้ยาเสพติดเพิ่มขึ้น ประการต่อมาคือประเทศไทยถูกใช้เป็นที่พักเก็บและลำเลียงผ่านยาเสพติดโดยเฉพาะไอซ์และคีตามีนไปยังประเทศที่สาม 

‘ประชาชนสามารถสอดส่องเป็นหูเป็นตาหากพบการกระทำหรือพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้องตามกระบวนการข้างต้น สามารถแจ้งเข้ามาได้ที่ สายด่วน สำนักงาน ป.ป.ส. 1386 ตลอด 24 ชม.’ เลขาธิการ ป.ป.ส.กล่าว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง