ผลวิจัยหนุนช่วยค่าไฟฟ้าฟรีผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

กรุงเทพฯ 2 ก.ค. – ผลวิจัยทีดีอาร์ไอเผยมาตราการไฟฟ้าฟรีช่วยผู้มีรายได้น้อยปี 56 – 58 แม้เข้าถึงครัวเรือนรายได้น้อยยังมีรั่วไหลไปยังคนไม่จนจริง แนะอุดช่องโหว่นโยบาย เก็บตกคนจนให้ทั่วถึง หนุนยกเลิกผูกสิทธิ์ตามโควตาการใช้ ปรับเป็นแบบเหมาจ่ายต่อเดือน โดยสนับสนุนจ่ายผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ


น.ส.วิชสิณี วิบุลผลประเสริฐ นักวิชาการ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) นำเสนอผล งานวิจัยโครงการประเมินนโยบายไฟฟ้าฟรีเพื่อผู้มีรายได้น้อย  ในงาน TSRI FORUM “ทางเลือกนโยบาย…เพื่อความเป็นธรรมด้านพลังงาน” ซึ่งสนับสนุนโดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) มีเป้าหมายศึกษานโยบายอุดหนุน “ไฟฟ้าฟรี” ในช่วงรัฐบาล คสช. ปี 2556 – 2558  ที่อุดหนุนไฟฟรีให้แก่ครัวเรือนที่ใช้ไฟไม่เกิน 90 หน่วยต่อเดือนในอดีต หรือ 50 หน่วยต่อเดือนในปัจจุบัน  

ผลวิจัยเทียบเคียงสัดส่วนผู้ที่ได้รับสิทธิ์ไฟฟ้าฟรีกับครัวเรือนรายได้น้อยแต่ละจังหวัด พบว่ามีความสัมพันธ์เชิงพื้นที่ค่อนข้างสูงคือร้อยละ 64 ซึ่งหมายความว่าจังหวัดที่มีสัดส่วนครัวเรือนรายได้น้อยมากจะมีสัดส่วนผู้ได้รับสิทธิ์ไฟฟ้าฟรีมากเช่นกัน (อย่างไรก็ตาม เนื่องจากนักวิจัยไม่สามารถเชื่อมข้อมูลผู้ได้รับสิทธิ์ไฟฟ้าฟรีกับฐานข้อมูลทางเศรษฐกิจและสังคมได้ จึงไม่ทราบว่าผู้ได้รับสิทธิ์ไฟฟ้าฟรีนั้นส่วนใหญ่คือครัวเรือนรายได้น้อยจริงหรือไม่) แต่ยังมีบางพื้นที่ที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ จึงทำให้ไม่ได้ใช้สิทธิ์ดังกล่าวประมาณ 10,996 ครัวเรือน ซึ่งอยู่ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน  ตาก นครนายก น่าน และลำพูน อีกทั้งครัวเรือนที่ไม่มีมิเตอร์ไฟฟ้าเป็นของตัวเองก็ไม่ได้รับสิทธิ์ ได้แก่ กลุ่มผู้เช่าอยู่ และผู้อาศัยในเพิงพักพิงชั่วคราว ซึ่งมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดปี 2558 มีจำนวน 15,497 ครัวเรือน


สำหรับปริมาณไฟฟ้าที่ภาครัฐให้การอุดหนุนให้ใช้ฟรีปี  2558 อยู่ที่ไม่เกิน 50 หน่วยต่อเดือน พบว่ายังต่ำกว่าความต้องการไฟฟ้าพื้นฐานของครัวเรือนรายได้น้อย เนื่องจากการสำรวจสำนักงานนโยบายและแผนพลังงานเมื่อปี 2559 พบว่าความต้องการใช้ไฟของครัวเรือนที่มีสมาชิก 2.5 คน มีความจำเป็นใช้ไฟขั้นต่ำอยู่ที่ 60 หน่วยต่อเดือน ซึ่งสูงกว่าที่รัฐอุดหนุนและจำนวนสมาชิกในครัวเรือนผู้มีรายได้น้อยของประเทศไทยส่วนใหญ่มีจำนวนสมาชิกเฉลี่ย 3.3 -3.5 คนต่อครัวเรือน และครัวเรือนรายได้น้อยเกือบ 25% มีจำนวนสมาชิกมากกว่า 5 คน ดังนั้น การอุดหนุนจึงยังไม่เพียงพอและไม่เป็นธรรมสำหรับครัวเรือนที่มีขนาดใหญ่

ผลศึกษาปัญหาการรั่วไหลของนโยบายไฟฟ้าฟรี พบว่ายังมีการรั่วไหลไปนอกกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งพิจารณาจากครัวเรือนที่ใช้ไฟฟ้าน้อยกว่า 50 หน่วยต่อเดือนแต่ไม่สม่ำเสมอ สันนิษฐานว่าอาจเป็นบ้านหลังที่ 2 ที่ไม่ควรได้รับสิทธิ์ไฟฟ้าฟรี

“ระหว่างปี 2555 – 25558 พบว่าเงินอุดหนุนที่รั่วไหลในเขต กฟภ. ที่อุดหนุนให้กับการรั่วไหลที่อาจไปยังบ้านหลังที่ 2 มีมูลค่าสูงถึง 830 ล้านบาทต่อปี นอกจากนี้ ผลกระทบจากนโยบายยังทำให้เกิดกรณีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมลดการใช้ไฟฟ้าลง 1-2 หน่วย เพื่อได้รับสิทธิ์ไฟฟ้าฟรี ซึ่งเห็นได้จากข้อมูลการใช้ไฟของประเทศไทยในช่วงที่มีมาตรการไฟฟ้าฟรีกระจุกอยู่ที่ 50 หน่วยต่อเดือนจำนวนมาก แม้จะมีแง่ดีในการลดใช้พลังงาน แต่ก็เพิ่มภาระการอุดหนุนอย่างน้อย 18 – 23 ล้านบาทต่อปีด้วยเช่นกัน” นส.วิชสิณี กล่าว


เนื่องจากนโยบายไฟฟ้าฟรีใช้วิธีการอุดหนุนแบบไขว้ น.ส.วิชสิณี วิเคราะห์ว่าทำให้ทุนค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นประมาณ 1% โดยภาระเกือบทั้งหมดตกอยู่กับผู้ใช้ไฟประเภทกิจการขนาดกลางและขนาดใหญ่ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมการผลิตอาหาร โรงแรม ผลิตเครื่องจักร สิ่งทอ และเหล็ก ซึ่งถือเป็นภาระที่ไม่สูงมากนัก และเพื่อปรับปรุงนโยบายสร้างความเป็นธรรมด้านพลังงานในอนาคต จึงควรแก้ปัญหาสำคัญ คือ สิทธิ์ที่ยังรั่วไหลและเข้าไม่ถึงผู้มีรายได้น้อยจริง ด้วย 3 นโยบายทางเลือก รวมถึงทางแก้ไขการอุดหนุนที่ยังไม่เหมาะสมเพียงพอ

ทางเลือกแรก คือ ใช้กลไกระบุตัวผู้ได้รับสิทธิ์ผ่านการลงทะเบียนสวัสดิการผู้มีรายได้น้อยปี 2560 โดยกระทรวงการคลัง ทางเลือกที่ 2 คือ การระบุผู้มีรายได้น้อยจากข้อมูลที่มีอยู่แล้ว เช่น ข้อมูลจากแผนที่ความยากจนของสำนักงานสถิติแห่งชาติเพื่อระบุพื้นที่ ควบคู่กับขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ในการระบุตัวคนรายได้น้อย และทางเลือก 3 คือ การระบุผู้มีรายได้น้อยจากข้อมูลที่ขนาดใหญ่ (Big Data) เช่น ข้อมูลจากภาพถ่ายทางอากาศ ข้อมูลเพื่อการบริหาร (administrative data) เช่น บิลค่าไฟฟ้า ค่าน้ำ การใช้โทรศัพท์มือถือ โดยทั้ง 3ทางเลือกเสนอใช้วิธีการอุดหนุนค่าไฟฟรีแบบเหมาจ่ายแทนการผูกสิทธิ์กับปริมาณใช้ไฟผ่านบัตร smart card เพื่อแก้ปัญหาการมีพฤติกรรมใช้ไฟบิดเบือน และเสนอใช้งบประมาณอุดหนุนที่มาจากกองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานราก หรือจากงบประมาณประจำปี.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

วิเคราะห์การเมืองสนามใหญ่ หลังศึกเลือกตั้งนายก อบจ.

วิเคราะห์ผลการเลือกตั้งนายก อบจ. 4 สนามใหญ่ โดยเฉพาะอุดรธานี ที่สะท้อนถึงความนิยมในตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

“บิ๊กเต่า” ลั่นเตรียมมอบกุญแจมือเป็นของขวัญปีใหม่ให้คนดัง ส่งนอนห้องขัง

“บิ๊กเต่า” ลั่นเตรียมมอบ “กุญแจมือ” เป็นของขวัญปีใหม่ให้อินฟลูฯ นักร้อง คนดัง ส่งนอนห้องขังวีไอพี เผยปม “ฟิล์ม รัฐภูมิ” คาดมีความชัดเจนภายในสัปดาห์นี้

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง