กรุงเทพฯ 2 มิ.ย.- ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกหลานอุ้มป้าอายุ 79 ปี จากบ้านพักย่านสามเสนไปเรียกค่าไถ่ 3 ล้านบาท ก่อนปล่อยตัวที่ปทุมธานี เมื่อต้นปีที่ผ่านมา คนละ 30 ปี ปรับ 1,000 บาท จำเลยสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่งคงเหลือ 15 ปี
ศาลอาญาอ่านคำพิพากษาคดีที่นายวรพงษ์ ปิ่นสุวรรณ และนายธงชัย คำพันธ์ สองผู้ต้องหาที่ร่วมกันอุ้มตัวนางนฤมล หริรักษฐากูร อายุ 79 ปี ซึ่งเกี่ยวข้องเป็นป้าของตัวเองไปเรียกค่าไถ่เพื่อแลกกับการปล่อยตัวเป็นเงิน 3 ล้านบาท เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2562
โดยจำเลยทั้งสองคนได้ขับรถไปที่บ้านพักของนางนฤมล ที่อยู่ในซอยสามเสน 28 แล้วออกอุบายว่าจะพาไปทำธุรกรรมการเงินที่ศูนย์ราชการ จากนั้นได้พาขับรถไปยังจังหวัดปทุมธานี และโทรศัพท์ไปหาญาติของนางนฤมลเพื่อเรียกค่าไถ่ 3 ล้านบาท หากไม่นำมาให้จะฆ่านางนฤมล พร้อมกับใส่กุญแจมือและใช้มีดข่มขู่ จากนั้นจำเลยทั้งสองคนก็ได้นำเงินที่อยู่ในกระเป๋าของนางนฤมลจำนวน 32,000 บาทไป แล้วปล่อยตัวทิ้งไว้ย่านอำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี ก่อนขับรถหลบหนี
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานของโจทก์และคำให้การของจำเลยที่รับสารภาพแล้ว เห็นว่าจำเลยร่วมกันใช้กำลังปทุษร้าย กักขังหน่วงเหนี่ยว และนำเงินของโจทก์ไปเพื่อแลกกับเสรีภาพ จึงเข้าข่ายความผิดฐานร่วมกันเรียกค่าไถ่ พิพากษาจำคุกคนละ 15 ปี ร่วมกันชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธมีดและยานพานะหลบหนี พิพากษาจำคุกคนละ 15 ปี และพกพาอาวุธมีดไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ปรับ 1,000 บาท รวมโทษจำคุกคนละ 30 ปี ปรับ 1,000 บาท แต่จำเลยให้การรับสารภาพ จึงลดโทษให้กึ่งหนึ่งเหลือจำคุกคนละ 15 ปี ปรับ 500 บาท .-สำนักข่าวไทย