ดำเนินคดี-ให้ออก รอง สวป.ยิงนายดับโรงพักเดียวกันดับ

สงขลา 28 มิ.ย. – เมื่อคืนเกิดเหตุตำรวจยิงกันเองเสียชีวิต ที่บ้านพักตำรวจ สภ.รัตภูมิ จ.สงขลา สาเหตุเกิดจากการมีปากเสียงเรื่องที่จอดรถ เบื้องต้นผู้ก่อเหตุรับสารภาพและถูกแจ้งข้อหาหนัก ขณะที่ต้นสังกัดได้ให้ผู้ต้องหาออกจากราชการไว้ก่อน เตรียมฝากขังพรุ่งนี้





เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา (27 มิ.ย.) หลังพนักงานสอบสวน สภ.รัตภูมิ จ.สงขลา ได้รับแจ้งเหตุตำรวจยิงกันเองเสียชีวิต และทั้งคู่เป็นตำรวจ สภ.รัตภูมิ ทั้งคู่จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือ ด.ต.พรณรงค์ แก้วพิมพ์ อายุ 52 ปี ตำแหน่งผู้บังคับหมู่งานป้องกันปรามปราม สภ.รัตภูมิ ถูกยิงด้วยปืนขนาด 9 มม. เข้าที่หน้าอก 3 นัด นอนเสียชีวิตอยู่ข้างรถเก๋ง ทะเบียน ขพ 7516 สงขลา ซึ่งจอดอยู่ในโรงจอดรถหน้าบ้านพักตำรวจ สภ.รัตภูมิ ในสภาพที่สวมชุดเครื่องแบบตำรวจครึ่งท่อน


ส่วนผู้ก่อเหตุยิงทราบชื่อคือ ร.ต.อ.สร้างสรรค์ นันธิโย อายุ 58 ปี รองสารวัตรป้องกันปราบปราม สภ.รัตภูมิ ซึ่งหลังก่อเหตุได้เข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.บัญชา มีบุญ ผู้กำกับการ สภ.รัตภูมิ พร้อมปืนที่ใช้ก่อเหตุ ก่อนถูกคุมตัวไปสอบปากคำ

จากการสอบสวน ร.ต.อ.สร้างสรรค์ รับสารภาพว่าก่อเหตุจริง อ้างว่าได้มีปากเสียงกันเรื่องที่จอดรถบริเวณป้อมสายตรวจนาสีทอง เนื่องจาก ด.ต.พรณรงค์ ได้จอดรถทิ้งไหว้หน้าป้อมมา 3 เดือน เพราะเคยเป็นหัวป้อมสายตรวจนาสีทองมาก่อน แต่ปัจจุบันมาทำหน้าที่ธุรการจราจร โดยมี ร.ต.อ.สร้างสรรค์ ไปเป็นหัวหน้าป้อมนาสีทองแทน และเมื่อช่วงเย็นก่อนเกิดเหตุ ร.ต.อ.สร้างสรรค์ ได้สั่งให้คนไปย้ายรถ ด.ต.พรณรงค์ ทำให้ ด.ต.พรณรงค์ ซึ่งนั่งอยู่ที่ป้อมไม่พอใจและมีการโทรศัพท์ด่าทอโต้เถียงกันมารอบหนึ่ง จากนั้น ด.ต.พรณรงค์ ได้ขับรถมาที่โรงพักเพื่อเคลียร์ปัญหากับ ร.ต.อ.สร้างสรรค์ ซึ่งขณะนั้นกำลังถอยรถเข้าที่จอดหน้าบ้านพัก จากนั้นจึงเปิดฉากมีปากเสียงกันอีกรอบ และ ด.ต.พรณรงค์ ได้ด่าบุพการีของ ร.ต.อ.สร้างสรรค์ ก่อนตบหน้าไปหนึ่งครั้งทำให้ ร.ต.อ.สร้างสรรค์ บันดาลโทสะลงจากรถ และชักปืนออกมากระหน่ำยิงผู้ตายรวม 3 นัด เสียชีวิตคาที่ ทั้งนี้ พนักงานสอบสวน สภ.รัตภูมิ ได้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย ประจำจังหวัดสงขลา รายงานว่า ต้นสังกัดได้ให้ ร.ต.อ.สร้างสรรค์ออกจากราชการไว้ก่อน และขณะนี้ยังถูกควบคุมตัวที่ห้องควบคุมของ สภ.รัตภูมิ ซึ่งพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งเขม่าดินปืน, ตรวจวัดแอลกอฮอล์ และผลตรวจเลือดทั้งผู้ตายรวมถึงผู้ต้องหา จากนั้นคาดว่าไม่เกินเที่ยงวันพรุ่งนี้ (29 มิ.ย.) จะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังที่ศาลจังหวัดสงขลาต่อไป .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สาวซิ่งรถหรูชนท้าย จยย. ทำแม่ลูกดับ 3 ศพ

แม่ขี่ จยย.ไปรับลูก 2 คน กลับจากเรียนพิเศษ ถูกสาวขับรถหรูซิ่งชนท้าย ร่างกระเด็นตกสะพานข้ามรางรถไฟ เสียชีวิตทั้ง 3 คน ส่วนผู้ก่อเหตุอุ้มแมว ทิ้งรถ หลบหนีไป

ปิดล้อมล่ามือปืนคลั่งสังหาร 3 ศพ

ตำรวจเร่งไล่ล่ามือปืนคลั่งก่อเหตุยิง 3 ศพ ในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู ล่าสุดปิดล้อมพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ รอยต่อ จ.เลย หลังพบเบาะแสคนร้ายหนีไปซ่อนตัว ขณะที่ชนวนสังหารยังไม่แน่ชัด

ลูกชายมือปืนคลั่งยิง 3 ศพ พาครอบครัวหนีตาย พ่อโพสต์ขู่ฆ่าล้างครัว

ลูกชายมือปืนคลั่งยิงดับ 3 ศพ ต้องพาภรรยาและลูก รวมถึงพ่อตา-แม่ยาย หนีไปอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง หลังพ่อโพสต์ข้อความขู่จะฆ่าล้างครัว เหตุจากปัญหาในครอบครัว

ชายคลั่งยิง3ศพ

ชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ โผล่วัดที่ จ.เลย ขอข้าวกิน ก่อนหนีเข้าป่า

แม่ครัววัดภูคำเป้ ต.ผาสามยอด อ.เอราวัณ จ.เลย เผยพบชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ เดินเข้ามาในวัดด้วยสภาพอิดโรย ขอข้าวกิน ลักษณะรีบกินเหมือนวิตกกังวล หลังกินเสร็จรีบเดินเข้าป่าหายไป ก่อนมาทราบภายหลังว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงคนเสียชีวิต

ข่าวแนะนำ

มือยิง 3 ศพ ขอโทษ-สำนึกผิด อ้างบันดาลโทสะ

ตำรวจแถลงข่าวจับกุม “สามารถ” ผู้ต้องหายิง 3 ศพ ในพื้นที่ อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู หลังจากติดต่อมอบตัว พร้อมยอมรับผิด ขอโทษญาติผู้เสียชีวิต อ้างบันดาลโทสะจึงก่อเหตุ และไม่มีอาการคลั่งตามที่เป็นข่าว

นายกฯสิงคโปร์เยือนไทย

นายกฯ ต้อนรับนายกฯ สิงคโปร์ ร่วมเปิดศักราชความสัมพันธ์ 60 ปี

“แพทองธาร” นายกฯ ต้อนรับนายกฯ สิงค์โปร์ อย่างสมเกียรติ พร้อมแถลงข่าวร่วมเปิดศักราชความสัมพันธ์ 60 ปี ไทย-สิงคโปร์ ผลักดันการลงทุนสีเขียว เศรษฐกิจดิจิทัล เชื่อมโยงอาเซียน มุ่งสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนและมั่งคั่งร่วมกัน

น้ำท่วมใต้

น้ำท่วม จ.สตูล ขยายวงกว้าง นราฯ อ่วมทั้งจังหวัด

น้ำท่วม จ.สตูล เช้าวันนี้ขยายวงกว้าง หลากเข้าย่านเศรษฐกิจของตำบลฉลุง ชาวบ้านเริ่มเครียด เพราะปีนี้น้ำท่วมหนักเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ส่วน นราธิวาส น้ำท่วมทั้งจังหวัด ประชาชนเดือดร้อน 1.5 แสนคน