หอการค้า ประเมินเหตุระเบิดไม่กระทบเศรษฐกิจไทย

กรุงเทพฯ 18 ส.ค.-ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจ มั่นใจเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลังปรับตัวดีขึ้น ส่วนเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคใต้ ยังไม่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยโดยรวม


นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจ การประเมินสถานะทางธุรกิจไทย โอกาส และความเสี่ยง จากกลุ่มผู้ประกอบการจำนวน 600 ตัวอย่างทั่วประเทศในกลุ่มธุรกิจเกษตร การค้า การผลิตและธุรกิจบริการ พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจ ในช่วงไตรมาสที่ 1 และ 2 ยังคงไม่ดีนัก โดยดัชนีมีค่าต่ำกว่า 100 แต่ในช่วงไตรมาสที่ 3 และ 4 ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจมีการปรับตัวดีขึ้น โดยในช่วงไตรมาสที่ 3 คาดว่าจะอยู่ที่ 101.9 และไตรมาสที่ 4 อยู่ที่ 103.8 ปรับตัวสูงเกิน 100 สะท้อนว่าภาคธุรกิจ รับรู้ว่าเศรษฐกิจดีขึ้น และจะปรับตัวเด่นชัดในช่วงครึ่งหลัง ส่งผลให้ทั้งปี 2559 คาดว่า ดัชนีจะอยู่ที่ 98.3

ขณะที่ ในปี 2560 ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจ น่าจะปรับตัวดีขึ้นจากสถานการณ์ต่างๆส่งผลต่อค่าดัชนีให้ปรับตัวดีขึ้นอยู่ที่ระดับ 119.5 จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ดีขึ้น จากการลงทุนของรัฐบาล และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ผลการสำรวจสถานการณ์อัตราแลกเปลี่ยนที่มีผลต่อภาคธุรกิจ พบว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ร้อยละ 40.8 เห็นว่าค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเร็วในปัจจุบันส่งผลกระทบต่อธุรกิจ อยู่ในระดับปานกลาง ร้อยละ 29.1 ส่งผลกระทบมาก เนื่องจากจะมีผลกระทบ ทำให้การส่งออกลดลงต้นทุนการป้องกันความเสี่ยงสูงขึ้น ทำให้ต้องชะลอการผลิต โดยเห็นว่าอัตราแลกเปลี่ยนที่อยู่ในระดับที่เหมาะสมควรอยู่ที่ 35.5 บาทต่อเหรียญสหรัฐ


 

ทั้งนี้ รัฐบาล ควรเข้ามาดูแลไม่ให้ค่าเงินบาทแข็งค่าเร็วเกินไป ควรดูแลให้ปรับไปในทิศทางและอัตราใกล้เคียงกับประเทศคู่แข่งสนับสนุนการลงทุนไปต่างประเทศมากขึ้น สกัดกั้นการเก็งกำไรของค่าเงิน และสนับสนุนเรื่องการลดต้นทุนในการส่งออกให้มาก

ส่วนการประเมินผลกระทบของผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยว ต่อเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคใต้ ในกลุ่มการค้า การผลิต และภาคบริการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวทั้งโรงแรม ร้านอาหาร และธุรกิจทัวร์ พบว่า ส่วนใหญ่ประเมินว่า จะส่งผลกระทบต่อภาพพจน์ของประเทศไทยในสายตาของต่างชาติมากที่สุด แต่จะไม่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ  การจับจ่ายของคนในพื้นที่ ตลอดจนการจับจ่ายโดยรวมของประเทศมากนัก โดยผู้ประกอบการส่วนใหญ่ประเมินว่า ระยะเวลาที่ได้รับกระทบประมาณ 1 – 2 เดือน ซึ่งจะมีผลต่อการบริโภค ทำให้ยอดขายโดยรวมลดลงเฉลี่ยวันละ 75 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้เม็ดเงินหายไปจากระบบประมาณ 2,300 – 4,500 ล้านบาท และคาดว่าจะมีผลทางจิตวิทยาต่อผู้บริโภคในพื้นที่เป็นระยะสั้นเท่านั้น


อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่ร้อยละ 60.6 เห็นว่า จะกระทบต่อการท่องเที่ยวเฉพาะภาคใต้เท่านั้นซึ่งคาดว่าจะมีผลให้นักท่องเที่ยวที่จะไปภาคใต้ หายไปประมาณ 124,931 คน หรือเพียงร้อยละ 1.1 ไม่กระทบต่อการคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวของปีนี้ ที่ 33.2 ล้านคน เม็ดเงินจะหายไปจากระบบเศรษฐกิจจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ประมาณ 6,050 ล้านบาท ส่งผลกระทบโดยรวมอยู่ในกรอบ 8,300 – 10,573 ล้านบาท มีผลต่อจีดีพีของ ไทยเพียงร้อยละ 0.05-0.07 หากไม่เกิดเหตุระเบิดขึ้นอีก  และยังไม่บั่นทอนเศรษฐกิจไทย โดยศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ยังคงคาดการณ์จีดีพีของไทยในปีนี้ ที่ร้อยละ 3.3 ตามเดิม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

car blocked hydrant delaying Thai temple fire control in New York

เปิดภาพรถจอดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงในเหตุไฟไหม้วัดไทย

นิวยอร์ก 13 ก.พ. – หน่วยงานดับเพลิงในนครนิวยอร์กโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง เป็นเหตุให้เกิดความล่าช้าในการดับไฟไหม้วัดไทยในเขตบรองซ์ของนครนิวยอร์ก ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ นายโรเบิร์ต เอส. ทักเกอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานดับเพลิงนิวยอร์กหรือเอฟดีเอ็นวาย (FDNY) โพสต์ในแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) แสดงความเสียใจกับเหตุไฟไหม้ในเขตบรองซ์ และขอบคุณสภากาชาดและหน่วยงานฉุกเฉินที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกับโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง โดยระบุว่า นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วันที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงประสบปัญหาหัวจ่ายน้ำดับเพลิงถูกกีดขวาง และครั้งนี้เป็นหัวจ่ายน้ำดับเพลิงที่อยู่ตรงข้ามกับอาคารที่เกิดไฟไหม้ วินาทีที่มีค่าต้องสูญเปล่าเพราะยวดยานที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงอย่างผิดกฎหมาย เรื่องนี้เป็นยิ่งกว่าการทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องของความเป็นความตาย ด้านเอฟดีเอ็นวายโพสต์เอ็กซ์ว่า เหตุไฟไหม้วัดอุษาพุฒยาราม เมื่อราว 06.00 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทวีความรุนแรงจากการเตือนภัยระดับ 2 เป็นระดับ 3 เจ้าหน้าที่มากกว่า 40 หน่วย รวม 150 นาย พยายามควบคุมไฟที่ไหม้ 2 อาคาร แต่น่าเสียใจที่มีผู้เสียชีวิต 2 คน มีรถยนต์คันหนึ่งจอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุด และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงไม่นานมานี้ เอฟดีเอ็นวายโพสต์ในเวลาต่อมาว่า เหตุไฟไหม้ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากเครื่องทำความร้อนแบบพกพาสัมผัสกับวัสดุที่ติดไฟง่าย พร้อมกับย้ำว่า […]

ปลอดภัยแล้ว นร.ถูกเก๋งฝ่าไฟแดงพุ่งชนขณะข้ามทางม้าลาย

รถเก๋งฝ่าไฟแดงชนนักเรียนขณะข้ามทางม้าลายหน้าโรงเรียนดัง คนขับอ้างไม่ใช่คนพื้นที่ มัวมองดู GPS ส่วนน้องนักเรียนปลอดภัยแล้ว

ภูมิใจไทยวอล์กเอาต์

ประชุมร่วมรัฐสภา วุ่นตั้งแต่เริ่ม “ภท.” วอล์กเอาต์ยกพรรค

“ภูมิใจไทย” วอล์กเอาต์ยกพรรคตั้งแต่เริ่มถกแก้ รธน. “ไชยชนก” บอกขัดต่อคำวินิจฉัยศาล ด้าน “หมอเปรม” โร่เสนอญัตติด่วนขอให้ศาล รธน.ตีความก่อน ลั่น เป็นคนมีวุฒิภาวะ-ทำอะไรรอบคอบ บรรจงเขียนอย่างสุดยอดในชีวิต ทำ “ณัฐวุฒิ” โวยยังไม่เห็นเอกสาร สุดท้ายประธาน “วันนอร์” สั่งพักประชุม 15 นาที

ข่าวแนะนำ

มือฆ่า 3 ศพ ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป ยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่น

มือฆ่า 3 ศพ เปิดปากครั้งแรก ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป รู้ว่าไม่สมควร ยืนยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่นเพราะแม่เด็กยื้อแย่งปืน

จับแล้วหนุ่มใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่เสียชีวิต

ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา รวบตัว “นายก๊อง” ได้แล้ว หลังก่อเหตุใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่จนเสียชีวิต เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา

ตร.ออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ ดับปริศนา

ตำรวจออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ เสียชีวิตปริศนาในโรงแรม พบเข้าไทยถูกกฎหมาย ชุดสืบฯ เตรียมรวบตัวเร็วๆ นี้ หลังพบพิกัดยังอยู่ในพื้นที่ กทม. เบื้องต้นทราบว่าเจ้าตัวไม่พร้อมเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย

ผู้ช่วย รมต.จีน บินลงพื้นที่แม่สอด เตรียมรับคนจีนกลับประเทศ

นายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีจีน บินลงพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เตรียมข้ามฝั่งพบ รมต.มหาดไทยของเมียนมา รับคนจีนกลับประเทศจีน