fbpx

ผบ.ทบ.ชี้ใครไม่นึกถึงบุญคุณสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่ควรอยู่ในประเทศ

กองบัญชาการกองทัพบก 21 มิ.ย.- “พล.อ.อภิรัชต์” เปิดอกคุยกับตัวแทนนักศึกษาวิชาทหาร 62 คน นศท. บอกว่าสถาบันพระมหากษัตริย์มีความสำคัญยิ่งกับสังคมไทย ใครก็ตามที่ไม่นึกถึงแผ่นดินเกิด ไม่นึกถึงบุญคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์  ก็ไม่ควรที่จะอยู่ในประเทศ  


พล.ท.ปราการ ปทะวาณิช ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน (ผบ.นรด.) นำคณะตัวแทนนักศึกษาวิชาทหาร (นศท.) จำนวน 62 คน จาก 19 โรงเรียนในกทม.และปริมณฑล เข้าพบพล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อพบปะและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น โดยใช้เวลานานเกือบ 2 ชั่วโมง จากนั้นพล.อ.อภิรัชต์ได้นำคณะนศท.ลงมาถ่ายภาพหมู่ด้านหน้าอาคารพิพิธภัณฑ์กองทัพบก ซึ่งมีหลายคนที่ขอถ่ายภาพคู่กับพล.อ.อภิรัชต์ เพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึกด้วย

นายอัศรวัฒน์ วันวงค์ หนึ่งในตัวแทนศึกษาวิชาทหาร กล่าวก่อนเข้าสวมกอดพล.อ.อภิรัชต์ว่า ตนเป็นเด็กจ.ลำปาง และเคยเห็นผบ.ทบ.ร่วมเดินขบวนพยุหยาตราทางสถลมารคในพิธีพระบรมราชาภิเษกที่ผ่านมา ทำให้รู้สึกว่าอยากเจอท่าน 


ขณะที่น.ส.นิรุชา แซ่ลี้ หนึ่งในตัวแทนศึกษาวิชาทหาร กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ได้เป็นตัวแทนของโรงเรียน และได้เดินทางมาพบผบ.ทบ. รวมทั้งได้แลกเปลี่ยนความคิดกันในหลาย ๆ เรื่อง ซึ่งสามารถทำให้เราแก้ไขปัญหาในอนาคตได้

ส่วนน.ส.รัตน์ษา มงคลธง หนึ่งในตัวแทนนักศึกษาวิชาทหาร กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ได้พบผบ.ทบ. สามารถนำความรู้ที่ได้ไปแก้ไขปัญหา ซึ่งตัวจริงและในโทรทัศน์ไม่ได้แตกต่างกัน แต่ตัวจริงมีความสูง ใจดี และเป็นกันเอง

พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า วันนี้ได้คุยเปิดอกกับนศท.หลายเรื่อง และได้คุยกับผบ.นรด.จึงทราบว่านศท.มีจิตใจที่รักทหาร ซึ่งเราได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันทั้งสองทาง และได้รับทราบปัญหา  เรียนหลักสูตรนักศึกษาวิชาทหาร เราต้องการให้น้อง ๆ เป็นพลเมืองที่ดีของประเทศ เป็นลูกที่ดีของพ่อแม่ เติบโตมาในสังคมที่มีความเข้มแข็ง รับข่าวสารที่ถูกต้อง ไม่ใช่รับข้อมูลจากสื่อโซเชียลเพียงอย่างเดียว ที่สำคัญอยากให้ศึกษาประวัติศาสตร์ชาติไทย เพื่อให้เห็นว่ากว่าจะมีประเทศไทยในวันนี้มีความยากลำบากแค่ไหน 


ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า มีหลายคนที่ถามเรื่องการเกณฑ์ทหาร วันนี้ก็ได้คำตอบกันไปหมดแล้ว ถือว่าเป็นส่วนน้อยของทั้งหมดจาก 19 โรงเรียนที่มาในวันนี้ ทั้งนี้จะต้องมีการขยายผลต่อไป โดยเฉพาะหลักสูตรที่จะมีการปรับเรื่องการแต่งกายและทรงผม เนื่องจากนศท.ไม่ได้เป็นทหาร แต่เขาอยากใช้ชีวิตแบบทหาร ดังนั้นเราต้องสร้างกิจกรรมที่เป็นทหารให้มากขึ้น ที่สำคัญต้องส่งเสริมให้มีการรักสิ่งแวดล้อม นี่คือเยาวชนหลักที่มีประมาณ 300,000 กว่าคน ถือว่ามากกว่ากำลังพลของกองทัพบกทั้งหมด 

“หากผ่านหลักสูตรการเรียนรด. ไม่ว่าทั้งผู้หญิงหรือผู้ชายคือกำลังหลักของชาติ เป็นเด็กที่มีความรักชาติ และเป็นพลเมืองที่ดีของประเทศ  ซึ่งทุกคนมีความเป็นจิตอาสา และเขาก็จะเป็นรด.จิตอาสาพระราชทาน 904 เป็นกำลังสำคัญเมื่อเกิดปัญหาภัยพิบัติที่พร้อมจะเข้ามาช่วยเหลือ” ผบ.ทบ. กล่าว

จากนั้นพล.อ.อภิรัชต์ ได้สอบถามนศท.ว่าใครไปสมัครเป็นจิตอาสามาแล้วบ้าง โดยนศท.ส่วนใหญ่บอกว่าไปสมัครมาแล้ว พล.อ.อภิรัชต์ จึงกล่าวว่า จะนำไปขยายผล ต้องเข้าใจว่านศท. ไม่ใช่กำลังของกองทัพบก แต่เข้ามาศึกษาวิชาทหาร เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน หลายคนที่เข้ามาไม่ใช่ว่าเข้ามาศึกษาวิชาทหาร เพราะไม่อยากเป็นทหาร แต่ที่สมัครมา เพราะอยากรู้ว่าทหารเป็นอย่างไร บางคนก็อยากเป็นพยาบาล หมอ และบางคนก็อยากเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร  ทุกคนมีจุดประสงค์ที่แตกต่างกันไป

ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า ในโซเชียลมีเด็กรุ่นใหม่ที่มีทั้งเอาทหารและไม่เอาทหาร พล.อ.อภิรัชต์ หันไปถามนศท.ว่า “ใครไม่เอาทหารบ้าง ขอให้ยกมือขึ้น” นศท.ทั้งหมดไม่มีใครยกมือ

เมื่อถามว่า เรื่องการเทิดทูนสถาบันมีการพูดคุยกับนศท.อย่างไรบ้าง พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ตนได้ถามทุกคนและเขาก็บอกว่าได้ศึกษาประวัติศาสตร์ชาติไทยแล้ว แต่อยากให้โรงเรียนสอนประวัติศาสตร์มากขึ้น เพราะตระหนักดีว่ามีชาติไทยได้ทุกวันนี้ ก็เพราะมีสถาบันพระมหากษัตริย์ 

“ผมเชื่อว่า นศท.กำลังจะเติบโตมา และผ่านการเลือกตั้ง เขาสามารถยอมรับด้วยตัวของเขาเอง จากที่ได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน เขาก็บอกว่าสถาบันพระมหากษัตริย์มีความสำคัญยิ่งกับสังคมไทย ใครก็ตามที่ไม่นึกถึงแผ่นดินเกิด ไม่นึกถึงบุญคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์  ก็ไม่ควรที่จะอยู่ในประเทศ  นี่คือคำพูดของนักศึกษาวิชาทหาร ” พล.อ.อภิรัชต์ กล่าว

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพล.อ.อภิรัชต์ปฏิเสธที่จะตอบคำถามเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของคสช. ที่กำลังจะหมดวาระลง แต่ยังมีปัญหาเรื่องการจัดระเบียบสังคมอยู่ เมื่อถามว่า มีคนพยายามปั่นกระแสให้กองทัพกับรัฐบาลมีความแตกแยกกัน พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ไม่มี  เมื่อถามต่อว่ายังสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต่อไปใช่หรือไม่ พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า กองทัพสนับสนุนรัฐบาล เพราะกองทัพเป็นของรัฐบาลทุกชุด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

พายุโซนร้อนซูลิก

ฤทธิ์พายุโซนร้อนซูลิก ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่นครพนม

ฤทธิ์พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่ จ.นครพนม เจ้าหน้าที่ต้องเร่งเดินเครื่องสูบน้ำลงน้ำโขง

อุตุฯ เตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ฝนถล่มหลายจังหวัด

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ภาคเหนือ อีสาน กลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรง

ชายแดนแม่สายยังเละจมโคลน จับตาพายุลูกใหม่

แม้จะผ่านน้ำท่วมใหญ่ในรอบร้อยปีมาหลายวันแล้ว แต่ตอนนี้ชายแดนแม่สายยังเต็มไปด้วยความเสียหายและดินโคลนจำนวนมาก ชาวบ้านหลายคนยังไม่สมารถกลับเข้าบ้านได้

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค การซ้อมเป็นรูปขบวนเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา ครั้งที่ 7 ณ โรงเรือพระราชพิธี ท่าวาสุกรี และวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ขณะที่ “เจ้าอาวาสวัดอรุณฯ” ให้กำลังใจทำหน้าที่ได้เต็มที่-ประสบความสำเร็จ