สธ.19 มิ.ย.-กรมอนามัย แนะสังเกตสัญญาณเตือนเสี่ยงป่วยโรคออฟฟิศซินโดรม ‘ปวดหลังเรื้อรัง-ปวดศีรษะเรื้อรัง-มือชา-เอ็นอักเสบ-นิ้วล็อค’ ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทำงาน
นพ.อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า วัยทำงานมีความเสี่ยงจะเกิดโรคออฟฟิศซินโดรม (Office syndrome) ได้ ซึ่งอาการที่เป็นสัญญาณเตือนและพบบ่อยคือ 1)ปวดหลังเรื้อรัง จากการอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์วันละ 8 ชั่วโมง โดยเฉพาะการนั่งหลังค่อม ทำให้กล้ามเนื้อต้นคอ สะบัก เมื่อย เกร็งอยู่ตลอดเวลา ทำให้กระบังลมขยายได้ไม่เต็มที่ สมองได้รับออกซิเจนไม่เต็มที่ ทำให้ง่วงนอน ศักยภาพในการทำงานไม่เต็มร้อย
2)ปวดศีรษะเรื้อรัง(tension headache)ความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ ความร้อน และการขาดฮอร์โมนบางชนิดเป็นปัจจัยก่อให้เกิดโรคนี้ได้เช่นกัน และ 3)มือชา เอ็นอักเสบ นิ้วล็อค การอักเสบของปลอกหุ้มเอ็นข้อมือ เส้นเอ็น นิ้วมือพบมากขึ้น เกิดจากการใช้คอมพิวเตอร์ การจับเมาส์ในท่าเดิมนานๆ ทำให้กล้ามเนื้อกดทับเส้นประสาทและเส้นเอ็นจนอักเสบ เกิดพังผืด ยึดจับบริเวณนั้นเป็นจำนวนมาก ทำให้ปวดปลายประสาท นิ้วล็อคหรือข้อมือล็อคได้ หากไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอาการจะรุนแรงจนถึงขั้น หมอนรองกระดูกเสื่อมหรือหมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาทได้
“วิธีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตนเองให้เหมาะสมขณะทำงานคือ 1) ปรับความสูงของเก้าอี้และโต๊ะให้เหมาะสม นั่งสบาย 2)หากใช้คอมพิวเตอร์ กึ่งกลางของจอควรอยู่ในระดับสายตา การพิมพ์งาน แป้นคีย์บอร์ดควรอยู่ในระดับข้อศอก ข้อมือ ใช้เมาส์โดยพักข้อศอกบนที่รองแขน และสามารถเคลื่อนไหวได้แบบไม่จำกัดพื้นที่ 3) ขณะนั่งทำงาน ควรนั่งหลังตรงชิดขอบด้านในของเก้าอี้ กระพริบตาบ่อยๆ พักสายตาจากจอคอมพิวเตอร์ทุกๆ10 นาที เปลี่ยนท่าการทำงานทุก20 นาที ยืดเหยียดกล้ามเนื้อมือและแขนทุก1ชั่วโมง 4)ปลูกต้นไม้ในร่ม ช่วยดูดซับสารพิษและเป็นที่พักสายตาจากการจ้องมองจอคอมพิวเตอร์ 5) รับประทานอาหารให้ตรงเวลาและครบ 5 หมู่ 6) ควรเปิดหน้าต่างสำนักงาน เพื่อให้อากาศหมุนเวียนถ่ายเทบ้างอย่างน้อยในตอนเช้าและพักกลางวัน และ 7) ตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี’ รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าว .-สำนักข่าวไทย