ความร่วมมือด้านการวิจัยถูกลูกหลงจากข้อพิพาทจีน-สหรัฐ

ปักกิ่ง 18 มิ.ย.- แวดวงนักวิจัยระบุว่า ความร่วมมือด้านการวิจัยระหว่างจีนกับสหรัฐที่มีมายาวนานกำลังได้รับผลกระทบจากข้อพิพาทการค้าระหว่างสองประเทศที่ทำให้สหรัฐปฏิเสธการตรวจลงตราหนังสือเดินทางหรือให้วีซ่าแก่นักวิจัยจีนและเข้มงวดการตรวจสอบหน่วยงานวิชาการที่ถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับรัฐบาลจีน 


ผลสำรวจเมื่อปีก่อนของฐานข้อมูลด้านวิชาการเนเจอร์อินเด็กซ์พบว่า แต่ละปีนักวิทยาศาสตร์จีนและสหรัฐทำงานวิจัยร่วมกันมากกว่านักวิทยาศาสตร์ประเทศอื่น แต่นักวิจัยหลายคนเริ่มบ่นกับเอเอฟพีว่า มีปัญหาในการทำงานและแบ่งปันข้อมูลกันมากขึ้น เพราะสถาบันอเมริกันเข้มงวดระเบียบการรับทุนจากต่างชาติและเพิ่มการตรวจสอบสถาบันต่างชาติที่จะมาทำงานร่วมกัน เรื่องนี้เป็นผลจากการที่รัฐบาลสหรัฐดำเนินนโยบายกวาดล้างการจารกรรมและขโมยเทคโนโลยีผ่านการติดต่อทางวิชาการ โดยเตือนเมื่อปีก่อนว่าชาวจีนที่ศึกษาหรือทำงานในสหรัฐอาจถูกบงการหรือบังคับให้ทำงานเพื่อตอบสนองเป้าหมายทางทหารและเป้าหมายทะเยอทะยานของจีน 

กระทรวงพลังงานสหรัฐมีคำสั่งเมื่อไม่นานมานี้ห้ามนักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกันเข้าร่วมโครงการหาผู้มีพรสวรรค์ของรัฐบาลต่างชาติ เพราะเป็นห่วงเรื่องความมั่นคงแห่งชาติและความสามารถในการแข่งขัน แม้คำสั่งไม่ได้ระบุชื่อ แต่เจ้าหน้าที่อเมริกันชี้ว่าหมายถึง โครงการ Thousand Talents ของรัฐบาลจีนที่ซื้อตัวชาวจีนและชาวต่างชาติที่ทำงานในต่างประเทศให้มาถ่ายทอดเทคโนโลยีชั้นนำในจีน โครงการนี้เปิดตัวในปี 2551 ดึงดูดนักวิจัยจีนและต่างชาติมาทำงานในจีนแล้วกว่า 7,000 คน ส่วนใหญ่มาจากสหรัฐ 


นักวิชาการคนหนึ่งในมหาวิทยาลัยนอตติงแฮมของอังกฤษ วิทยาเขตจีนชี้ว่า ความร่วมด้านการวิจัยของจีนและสหรัฐจะหยุดชะงักอย่างร้ายแรงเพราะสงครามการค้าที่กลายไปเป็นสงครามเทคโนโลยี โดยเฉพาะเรื่องสงครามผู้มีพรสวรรค์ รัฐบาลจีนทุ่มเงินจำนวนมหาศาลหวังไล่ตามให้ทันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของสหรัฐ แต่ยังคงต้องพึ่งพาการถ่ายทอดและการอบรมจากสหรัฐสูงมากอยู่ 

กระทรวงศึกษาจีนเผยว่า ช่วงสามเดือนแรกของปีนี้ ชาวจีน 1 ใน 8 คนมีปัญหาในการขอวีซ่าสหรัฐเพื่อเข้าไปทำงานวิชาการหรืองานวิจัย ขณะที่กระทรวงต่างประเทศสหรัฐชี้แจงว่า สาเหตุที่ต้องเข้มงวดการให้วีซ่าเพราะพบว่าหน่วยข่าวกรองต่างชาติหันมาจ้างงานนักศึกษาต่างชาติในสหรัฐมากขึ้น ปัจจุบันนักศึกษาและนักวิชาการต่างชาติในสหรัฐเป็นชาวจีนมากที่สุด โดยมีมากถึง 360,000 คนเมื่อปีก่อน.- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง