กทม. 30 พ.ค.- ประกาศคุมค่ายา เวชภัณฑ์ ค่าบริการรักษาพยาบาล บังคับใช้วันนี้ กรมการค้าภายในเตือนให้โรงพยาบาลปฏิบัติตามประกาศ
กระทรวงพาณิชย์ออกประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการฉบับที่ 52 พ.ศ.2562 เรื่องการแจ้งราคา การกำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไขเกี่ยวกับการจำหน่ายยารักษาโรค เวชภัณฑ์ ค่าบริการรักษาพยาบาลบริการแพทย์ทางการและบริการอื่นของสถานพยาบาลมีผลบังคับใช้วันนี้วันแรก
นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน ระบุว่า ประกาศดังกล่าวเพื่อควบคุมราคายา เวชภัณฑ์และบริการทางการแพทย์ให้อยู่ในราคาที่เหมาะสมหลังจากที่ก่อนหน้านี้มีการร้องเรียนค่ารักษาโรงพยาบาลแพงเกินจริง ซึ่งกรมการค้าภายในจะส่งประกาศให้ 353 แห่งทราบภายในวันนี้ โดยโรงพยาบาลเอกชน 353 แห่ง ส่งข้อมูลราคายามาให้แล้ว พบว่ามีความแตกต่างกันมาก ยาบางชนิดราคาต่างหลายเท่าตัว เช่น ยา amphotericin ราคาต่ำสุด 452 บาท สูงสุด 2,200 บาท
สาระสำคัญ ของประกาศดังกล่าวกำหนดให้โรงพยาบาลเอกชน ผู้ผลิต ผู้นำเข้า ผู้จำหน่ายส่ง ต้องแจ้งราคาซื้อ-ราคาจำหน่ายยา เวชภัณฑ์ ค่าบริการ ตามรายการที่อยู่ในบัญชีเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต มีสิทธิทุกที่ หรือ UCEP ใน 3 กลุ่ม ยา 3,892 รายการ เวชภัณฑ์ 868 รายการ และ ค่าบริการ 5,286 รายการ กรณีที่โรงพยาบาลจะเปลี่ยนแปลงราคายาต้องแจ้งให้กรมการค้าภายในทราบก่อนปรับราคา หากไม่แจ้งราคาซื้อ-ราคา จำหน่ายตามที่ประกาศกำหนดจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี /ปรับ ไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับอีกไม่เกินวันละ 2,000 บาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืน หรือจนกว่าจะแจ้ง
ให้โรงพยาบาลเอกชนแสดง QR Code เพื่อเปรียบเทียบราคาจำหน่ายยาที่กรมการค้าภายในจัดทำไว้อย่างเปิดเผยให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลดังกล่าวได้โดยสะดวก โดยให้เวลาโรงพยาบาลดำเนินการภายใน 45 วัน โรงพยาบาลเอกชนประเมินค่ารักษาเบื้องต้นให้ผู้ป่วยทราบ และต้องแจ้งราคายา เวชภัณฑ์ และค่าบริการทางการแพทย์ให้ผู้ป่วยทราบ ก่อนจำหน่ายหรือให้บริการ เมื่อผู้ป่วยร้องขอสำหรับผู้ป่วยนอก ให้โรงพยาบาลต้องออกใบสั่งยาตามมาตรฐานการประกอบวิชาชีพเวชกรรม และใบแจ้งราคายาให้ผู้ป่วยทราบล่วงหน้า โดย ใบสั่งยาอย่างน้อย ต้องประกอบด้วยชื่อสามัญทางยา ชื่อทางการค้า รูปแบบยา ขนาดหรือปริมาณ จำนวน วิธีใช้ ระยะเวลาในการใช้ ส่วนใบแจ้งราคายาต้องประกอบด้วยชื่อยาตามใบสั่งยาและราคาต่อหน่วย หากไม่ปฏิบัติตามจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี /ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนี้ ยังกำหนดให้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการในส่วนกลางและส่วนจังหวัดเป็นผู้พิจารณาวินิจฉัย กรณีมีข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการให้บริการรักษาพยาบาลที่เกินความจำเป็นและ/หรือการคิดค่าบริการรักษาพยาบาลสูงเกินสมควร ซึ่งหากเห็นว่ามีการคิดราคาสูงเกินสมควรจริงจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี /ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ตามเว็บ
ส่วนกรณี การขายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ตามเว็บไซต์ต่างๆ ซึ่งก่อนหน้านี้ นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เผยว่า กรมฯ ได้เชิญผู้บริหารของลาซาด้า กรุ๊ป ซึ่งเป็นเจ้าของเว็บไซต์จำหน่ายสินค้าออนไลน์รายใหญ่มาหารือแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาการขายสินค้าปลอมบนเว็บไซต์ หลังได้รับการร้องเรียนจากผู้ซื้อสินค้าว่าของที่ซื้อไปไม่เป็นไปตามมาตรฐาน โดยเฉพาะสินค้าปลอมเครื่องหมายการค้า อีกทั้งยังทำให้ผู้ประกอบธุรกิจถูกกฎหมายได้รับผลกระทบ ซึ่งลาซาด้าได้นำระบบของอาลีบาบา กรุ๊ป มาใช้เปิดโอกาสให้เจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาไม่ว่าจะเป็นเครื่องหมายการค้าหรือลิขสิทธิ์สามารถลงทะเบียนในระบบ IP Protection Portal (IPP) เพียงครั้งเดียวก็สามารถแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาบนเว็บไซต์ลาซาด้าได้ทันที
ประมาณเดือนกรกฎาคมนี้ กรมทรัพย์สินทางปัญญาจะจัดสัมมนาเชิญตัวแทนเจ้าของเว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์ มาพูดคุยเพื่อหาวิธีการตรวจสอบและให้รายละเอียดที่จะช่วยกันดูแลขายสินค้าผ่านออนไลน์อย่างถูกต้อง ไม่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาและเครื่องหมายทางการค้าและยังจะช่วยให้ผู้สั่งซื้อสินค้าออนไลน์ได้ของดีและมีคุณภาพอีกด้วย ซึ่งนอกจากลาซาด้าแล้ว ตอนนี้ มีการตอบรับที่จะเข้าร่วมทั้ง เฟซบุ๊ก ชอปปี้ ยูทูบและเว็บไซต์ขายสินค้าอีกหลายราย.-สำนักข่าวไทย