สั่งสอบข้อเท็จจริง”ตร.คลองหลวง”บกพร่องหรือขยายผลจับยาเสพติดจนพ่อค้าส้มตกเป็นแพะ!

กรุงเทพฯ 29 พ.ค.- สั่งต้นสังกัดตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ปรากฎ กรณีพ่อค้าส้มถูก ตำรวจ สภ.คลองหลวง จับกุมโดยไม่เป็นธรรม เป็นเพราะความบกพร่องต่อหน้าที่หรือขยายผลจับกุมยาเสพติด  ส่วนพ่อค้าส้มสามรถร้องเรียนเพื่อเอาผิดชุดจับกุมได้


หลังจากที่ศาลธัญบุรี มีคำสั่งให้ปล่อยตัว นายพิชิต เชิดธรรม พ่อค้าส้มที่ถูกตำรวจ สภ.คลองหลวง จับกุมดำเนินคดีข้อหาร่วมกันมียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย เนื่องจากไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด 

พันตำรวจเอกกฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากกรณีที่เกิดขึ้น ทางต้นสังกัดต้องตรวจสอบว่า การปฎิบัติหน้าที่ของพนักงานสอบสวนเป็นการทำตามหน้าที่ เพื่อขยายผลการจับกุม หรือ เป็นความบกพร่องต่อหน้าที่ จนทำให้ผู้บริสุทธิ์ต้องตกเป็นผู้ต้องหา ให้เกิดความชัดเจนและให้ความจริงปรากฎ ส่วนทางพ่อค้าส้มผู้เสียหายจะร้องเรียนให้ต้นสังกัดดำเนินการกับพนักงานสอบสวนก็สามารถทำได้ เพื่อปกป้องสิทธิ์ของตนเอง


กรณีที่เกิดขึ้น สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา นางสาวกัลยกร ชลพิทักษ์ พร้อมด้วยทนายความ เข้าร้องเรียนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอความเป็นธรรม กรณีนายพิชิต เชิดธรรม สามี ถูกตำรวจ สภ.คลองหลวง จับกุมดำเนินคดีข้อหาร่วมกันมียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยมิชอบ

 เนื่องจากนายพิชิตได้รับจ้างวานจาก นายปองพล สวัสดิ์ทัส ให้ขับรถขนส้มไปทิ้ง บริเวณซอยเทพกุญชร 10 อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี แต่ปรากฏว่าพบยาบ้าจำนวน 52,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในลังส้ม นายพิชิตจึงได้โทรแจ้งตำรวจ  สภ.คลองหลวง ให้ไปตรวจสอบ แต่กลับถูกแจ้งความดำเนินคดี ก่อนจะขยายผลจับกุมนายสมศักดิ์ หทัยทัศน์ ซึ่งรับสารภาพว่าเป็นเจ้าของยาเสพติด  อีกทั้งนายสมศักดิ์ ก็ไม่ได้ซัดทอดถึงนายพิชิตว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดแต่อย่างใด จึงสงสัยว่าทำไมตำรวจไม่กันไว้เป็นพยาน แต่กลับแจ้งความดำเนินคดี

หลังจากนั้นนายวิชิต ก็ถูกนำตัวไปขังที่เรือนจำธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ตั้งแต่วันที่ 30 เมษายนที่ผ่านมา เป็นเวลาเกือบ 1 เดือน เนื่องจากไม่มีเงินประกันตัว เพราะมีฐานะยากจน ทำให้ได้รับความเดือดร้อน จนกระทั่งศาลได้มีคำสั่งให้ปล่อยตัว เพราะไม่พบหลักฐานการร่วมกระทำความผิด .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง