ราชบุรี 24 พ.ค.-อัยการยื่นอุทธรณ์ คคี “เสือดำ” เพิ่มโทษ “เปรมชัย” เป็นตัวการให้ผู้อื่นล่าสัตว์ ไม่ใช่ผู้สนับสนุน และฟ้องข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง
นายสุนทร สุรวัฒนาวงศ์ อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีศาลสูงภาค 7 แถลงข่าวหลังยื่นอุธรณ์คดีเสือดำ ที่มีนายเปรมชัย กรรณสูต กับพวก รวม 4 คน เป็นจำเลยในวันนี้ว่า ภายหลังศาลจังหวัดทองผาภูมิ (ศาลชั้นต้น) อ่านคำพิพากษาคดีดังกล่าวไปแล้วเมื่อวันที่ 19 มีนาคม ซึ่งศาลชั้นต้นตัดสินให้จำคุกนายเปรมชัย เป็นเวลา 16 เดือน ใน 3 ข้อหา ฐานเป็นผู้สนับสนุนให้ผู้อื่นล่าสัตว์ป่า ร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง (ไก่ฟ้าหลังเทา) ไว้ในครอบครองและพกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะ โดยยกฟ้องนายเปรมชัย ในข้อหาร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และข้อหาร่วมกันมีซากเสือดำ สัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งฝ่ายโจทย์ยังไม่พอใจคำตัดสิน จึงยื่นอุธรณ์คดี โดยอัยการสูงสุดในพื้นที่มีความเห็น ให้มีการเพิ่มโทษจำเลยทั้ง 4 คนดังนี้
1. นายเปรมชัย กรรณสูตร จำเลยที่ 1 อุทธรณ์ให้ลงโทษฐานเป็นตัวการให้ผู้อื่นล่าสัตว์ป่า ( ศาลจังหวัดทองผาภูมิวินิจฉัยว่าเป็นผู้สนับสนุน ) อุทธรณ์ให้ลงโทษฐานร่วมกันเก็บหาของป่าภายในเขตป่าสงวน อุทธรณ์ให้ลงโทษฐานร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง ซึ่งข้อหานี้ศาลจังหวัดทองผาภูมิพิพากษายกฟ้อง อุทธรณ์ว่าการมีซากเสือดำ และซากไก่ป่า (ไก่ฟ้าหลังเทา) เป็นการกระทำหลายกรรม(ศาลจังหวัดทองผาภูมิพิพากษาว่าเป็นกรรมเดียว) อุทธรณ์ข้อหาร่วมกันพกพาอาวุธปืน และพาอาวุธมีด เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ซึ่งศาลจังหวัดทองผาภูมิพิพากษาว่าเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงบทหนัก ฐานพาอาวุธปืน อุทธรณ์ขอให้ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหาย จำนวน 3,012,000 บาท เต็มตามฟ้อง
2. นายยงค์ โดดเครือ จำเลยที่ 2 อุทธรณ์ให้ลงโทษฐานร่วมกันมีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง ร่วมกันพาอาวุธไปในที่สาธารณะฯ โดยไม่ลดโทษ เนื่องจากจำเลยให้การปฏิเสธแต่ได้รับสารภาพภายหลัง อุทธรณ์ให้ลงโทษ ฐานร่วมกันล่าสัตว์ป่า (ศาลจังหวัดทองผาภูมิยกฟ้อง) อุทธรณ์ขอให้ลงโทษ ฐานร่วมกันเก็บหาของป่าและมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง ซึ่งศาลจังหวัดทองผาภูมิยกฟ้อง อุทธรณ์ว่าการมีซากเสือดำ และซากไก่ป่า เป็นการกระทำหลายกรรม (ศาลจังหวัดทองผาภูมิพิพากษาว่าเป็นกรรมเดียว) อุทธรณ์ข้อหาร่วมกันพาอาวุธปืน และพาอาวุธมีด เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ซึ่งศาลจ.ทองผากภูมิพิพากษาว่าเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงบทหนัก ฐานพาอาวุธปืน
3. นางนที เรียมแสน จำเลยที่ 3 อุทธรณ์ขอให้ลงโทษ ฐานร่วมกันเก็บหาของป่าและมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครอง (ซึ่งศาลจ.ทองผาภูมิยกฟ้อง) อุทธรณ์ว่าการมีซากเสือดำ และซากไก่ป่า เป็นการกระทำหลายกรรม (ศาล จ.ทองผาภูมิพิพากษาว่าเป็นกรรมเดียว) อุทธรณ์ขอให้ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหาย จำนวน 3,012,000 บาท เต็มตามฟ้อง
4. นายธานี ทุมมาศ จำเลยที่ 4 อุทธรณ์ให้ลงโทษฐานร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองและร่วมกันพาอาวุธไปในที่สาธารณะ โดยไม่ลดโทษ เนื่องจากจำเลยให้การปฏิเสธ แต่ต่อมาได้ถอนคำให้การเดิมเป็นการให้การับสารภาพ อุทธรณ์ว่าการมีซากเสือดำ และซากไก่ป่า เป็นการกระทำหลายกรรม (ศาลจ.ทองผาภูมิพิพากษาว่าเป็นกรรมเดียว) อุทธรณ์ให้ลงโทษสูงขึ้น ฐานความผิดพยายามล่าสัตว์ป่า ศาลจ.ทองผาภูมิลงโทษจำคุก 4 เดือน โจทก์เห็นว่าน้อยไป อุทธรณ์ข้อหาร่วมกันพาอาวุธปืน และพาอาวุธมีด เป็นความผิด หลายกรรมต่างกัน ศาลจ.ทองผาภูมิพิพากษาว่าเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงบทหนัก ฐานพาอาวุธปืน อุทธรณ์ขอให้ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหาย จำนวนจำนวน 3,012,000 บาท เต็มตามฟ้อง
นอกจากนี้ประเด็นศาลพิพากษาให้คืนเกลือป่น ถุงเกลือป่น (ถุงเปล่า) ถุงดำ และรถยนต์ แบบนั่งสองตอนของกลาง อุทธรณ์ขอให้ริบ (เนื่องจากเห็นว่าเป็นทรัพย์ที่ได้ใช้ในการกระทำผิด)
นายสุนทร สุรวัฒนาวงศ์ อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีศาลสูงภาค 7 เปิดเผยว่า โทษที่เป็นตัวการกับโทษที่เป็นตัวสนับสนุนแตกต่างกัน คือ การเป็นผู้สนับสนุนจะรับโทษแค่ 2 ใน 3 ของตัวการ ซึ่งตนเองมองว่านายเปรมชัยเป็นตัวการเพราะมีการร่วมมือร่วมใจกันในการที่จะเข้าไปสัตว์ป่า จึงอุทธรณ์.-สำนักข่าวไทย