วอชิงตัน 18 พ.ค.- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐประกาศชะลอการเก็บภาษียานยนต์นำเข้าออกไปอีก 6 เดือน หวังกดดันให้สหภาพยุโรป หรืออียู และญี่ปุ่นยอมเจรจาเพื่ออ่อนข้อทางการค้า
ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวว่า ได้สั่งการให้นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐแจ้งให้เขาทราบภายใน 180 วันเรื่องผลการเจรจากับอียู ญี่ปุ่น และประเทศอื่น ๆ ที่นายไลท์ไฮเซอร์เห็นว่าสมควร เขากล่าวถึงอียูว่าทำกับสหรัฐแย่กว่าที่จีนทำเสียอีก เพียงแค่เล็กกว่าเท่านั้น อียูไม่อยากได้เกษตรกรอเมริกัน ไม่อยากได้รถอเมริกัน แต่ส่งออกรถเมอร์เซเดส-เบนซ์มาสหรัฐมากมายราวกับขายคุกกี้ เอาเปรียบการค้าสหรัฐ ธุรกิจภาคยานยนต์สหรัฐซบเซาเพราะถูกต่างชาติแข่งขันอย่างไม่เป็นธรรม
ประธานาธิบดีทรัมป์อ้างว่า รายงานของรัฐมนตรีพาณิชย์สรุปว่าส่วนแบ่งตลาดยานยนต์ของสหรัฐที่ลดลงเป็นภัยต่อการวิจัย การพัฒนา และการผลิตที่ล้วนแต่มีความสำคัญต่อความมั่นคงแห่งชาติ เพราะพื้นฐานอุตสาหกรรมกลาโหมของสหรัฐต้องพึ่งพาภาคยานยนต์ในประเทศเรื่องเทคโนโลยีก้าวหน้าที่จำเป็นต่อการป็นเจ้าทางทหารของสหรัฐ และว่ารายงานระบุด้วยว่าสหรัฐนำเข้าเพิ่มขึ้นสองเท่าในช่วง 34 ปีที่ผ่านมา แต่อียูและญี่ปุ่นกลับตั้งกำแพงการค้ามากมายในการรับสินค้าอเมริกัน ช่วงเวลาดังกล่าวผู้ผลิตอเมริกันมีส่วนแบ่งตลาดในประเทศลดลงจากร้อยละ 67 เหลือร้อยละ 22 เท่านั้น
ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศข้อตกลงกับนายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปเมื่อปีก่อนเรื่องจะพักความเป็นปรปักษ์ทางการค้าระหว่างหาทางแก้ไขข้อพิพาทระหว่างกัน หลังจากสหรัฐเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมจากอียูในอัตราร้อยละ 25 และ 10 ตามลำดับตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนพร้อมกับแคนาดาและเม็กซิโก โดยก่อนหน้านั้นได้เก็บกับประเทศส่วนใหญ่ไปตั้งแต่เดือนมีนาคมปีเดียวกัน มีเพียงสี่ประเทศที่ได้รับการยกเว้นถาวรได้แก่ เกาหลีใต้ อาร์เจนตินา ออสเตรเลีย และบราซิล.-สำนักข่าวไทย