กรุงเทพฯ 17 พ.ค. – โครงการนมโรงเรียนใหม่ส่งนมถึงเด็กแล้ว เกษตรฯ มั่นใจโปร่งใส การพิจารณาสิทธิ์ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน
นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ได้สั่งการข้าราชการสังกัดกระทรวงเกษตรฯ ทุกจังหวัดบูรณาการแก้ไขปัญหานมโรงเรียน โดยต้องออกตรวจเยี่ยมโรงเรียนตั้งแต่วันนี้ (17 พ.ค.) เป็นต้นไป มอบหมายให้ปศุสัตว์จังหวัดรับผิดชอบงานเกี่ยวกับนมโรงเรียน โดยประสานขอความร่วมมือเกษตรจังหวัดทุกจังหวัดสั่งการให้เกษตรอำเภอทุกอำเภอลงไปตรวจเยี่ยมโรงเรียนในพื้นที่ทุกแห่งเพื่อสอบถามครู อาจารย์และนักเรียนว่าได้รับนมตามสัญญาถูกต้องหรือไม่ รวมถึงตรวจสอบคุณภาพน้ำนมแล้วให้รายงานปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะของผู้บริหารโรงเรียนมายังส่วนกลาง รวมทั้งมอบให้เกษตรและสหกรณ์จังหวัดประสานงานกับปศุสัตว์จังหวัดเพื่อเข้าไปพบและรายงานต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเกี่ยวกับการสถานภาพโครงการนมโรงเรียนให้ทราบทุกระยะ หากมีปัญหาต้องขอความกรุณาผู้ว่าฯ สั่งการหรือประสานงานในอำนาจหน้าที่ของจังหวัดเพื่อแก้ไขปัญหาเร็วที่สุด
นายกฤษฎา กล่าวเพิ่มเติมว่า แนวทางปฏิรูประบบบริหารจัดการโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียนที่ ครม.เห็นชอบสามารถอุดรอยรั่วของการทุจริตและเกิดผลประโยชน์ทับซ้อน โดยคณะกรรมการบริหารที่ตั้งขึ้นใหม่ ไม่มีตัวแทนผู้ประกอบการ รวมทั้งองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) ที่เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการ ซึ่งถือว่ามีส่วนได้ส่วนเสียอยู่ด้วยแล้วมอบหมายให้คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการระดับกลุ่มพื้นที่ 5 กลุ่มซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานจัดสรรสิทธิ์และพื้นที่จำหน่าย ทั้งนี้ การทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้างของกลุ่ม 1 – 4 ดำเนินการแล้ว ผู้ประกอบการส่งนมถึงโรงเรียนตั้งแต่เปิดภาคเรียนวานนี้ (16 พ.ค.) ยกเว้นพื้นที่กลุ่ม 5 ซึ่งดูแลเขต 7 ประกอบด้วย ภาคกลางฝั่งตะวันตกและภาคใต้ รวม 22 จังหวัด ซึ่งมีปัญหาร้องเรียนกัน ล่าสุดคณะอนุกรรมการฯ ได้ข้อยุติแล้ว ผู้ประกอบการเร่งทำสัญญากับองค์การบริหารส่วนตำบล/เทศบาลตำบลที่ดูแลโรงเรียนรัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการที่ดูแลโรงเรียนเอกชนให้ครบทุกแห่งในวันที่ 21 พฤษภาคมนี้แน่นอน นอกจากนี้ ยังให้อธิบดีกรมปศุสัตว์ตั้งศูนย์บริหารจัดการโครงการนมโรงเรียนไว้ในส่วนกลางเพื่อประสานงานและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นอย่างทันท่วงที
สำหรับแนวทางปฏิรูปโครงการนมโรงเรียน นายกฤษฎา ได้สั่งการให้มีการบริหารจัดการใหม่ทั้งระบบ จากที่มีปัญหาร้องเรียนการแจ้งปริมาณการรับซื้อน้ำนมดิบมากกว่ารับซื้อจริง เพื่อขอสิทธิ์จำหน่ายนมโรงเรียนเพิ่มขึ้น ข้อร้องเรียนเรื่องคุณภาพน้ำนมดิบต่ำกว่ามาตรฐาน รวมทั้งนมถึงมือเด็กบูด จึงกำหนดแนวทางตรวจสอบปริมาณน้ำนมที่ผู้ประกอบการนำมาขอสิทธิ์การจำหน่ายต้องตรงกับปริมาณน้ำนมที่รวบรวมได้จริงที่ศูนย์รวบรวมนม อีกทั้งยังสั่งการให้จัดทำระบบตรวจสอบคุณภาพน้ำนมให้เป็นตามมาตรฐานนมโรงเรียนอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ มีรายงานถึงการจัดสรรสิทธิ์และพื้นที่จำหน่ายของกลุ่ม 5 ที่ล่าช้า เนื่องจากผู้ประกอบการ 2 ราย ทำผิดเงื่อนไข ไม่ได้ทำสัญญากับศูนย์รวบรวมน้ำนมดิบโดยตรง คณะอนุกรรมการฯ พื้นที่จึงพิจารณาตัดสิทธิ์จำหน่าย ทำให้การทำสัญญาต้องเลื่อนเวลาเล็กน้อย แต่จะส่งนมถึงโรงเรียนทุกแห่งในวันที่ 21 พฤษภาคม รวมถึงให้เด็กนักเรียนได้ดื่มนมครบตามที่กำหนด.-สำนักข่าวไทย