ม.หอการค้าฯ คาดเงินสะพัดเปิดเทอมกว่า 54,000 ล้านบาท

ม.หอการค้าไทย 8 พ.ค. – ม.หอการค้าไทยเผยผลสำรวจค่าใช้จ่ายเปิดเทอมปี 62 มีมูลค่าสูงถึง 54,000 ล้านบาท


นางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงการประเมินผลกระทบของผู้ปกครองในช่วงเปิดเทอม  จากการสำรวจ 1,200 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 1-6 พฤษภาคม 2562 พบว่า มูลค่าการใช้จ่ายในช่วงเปิดเทอมมีเงินสะพัดทั่วประเทศประมาณ 54,972.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ที่มีเงินสะพัดช่วงเปิดเทอม 52,254.88 ล้านบาท โดยจำนวนบุตรที่ต้องเสียค่าเล่าเรียนและอุปกรณ์ส่วนใหญ่ร้อยละ 90 ระบุว่า ส่งลูกเรียนเพียงคนเดียว มีเพียงร้อยละ 9.2 ที่ต้องส่งบุตรเรียน 2 คน ส่วนค่าใช้จ่ายสำหรับการเปิดเทอมครั้งนี้เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมาส่วนใหญ่ร้อยละ 38.1 เห็นว่ามีค่าใช้จ่ายเท่าเดิม รองลงมาคือร้อยละ 23.9 เห็นว่ามีค่าใช้จ่ายมากขึ้นซึ่งโครงสร้างค่าใช้จ่ายในช่วงเปิดเทอมส่วนใหญ่ร้อยละ 45.4 มาจากค่าเล่าเรียนค่าหน่วยกิต และร้อยละ 28.6 มาจากค่าบำรุงโรงเรียนกรณีเปลี่ยนโรงเรียนใหม่หรือค่าแป๊ะเจี๊ยะ

สำหรับทัศนะต่อราคาสินค้าเมื่อเปรียบกับปีที่ผ่านมา พบว่าส่วนใหญ่บอกว่าราคาหนังสือ กระเป๋านักเรียน อุปกรณ์การเรียน ชุดนักเรียน รองเท้า ถุงเท้าไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนแหล่งที่มาของเงินในการใช้จ่ายช่วงเปิดเทอม ส่วนที่เพียงพอ ร้อยละ 43.8 มาจากเงินเดือนของผู้ปกครอง และร้อยละ 34.4 มาจากเงินออม ส่วนผู้ปกครองที่มีเงินไม่เพียงพอ ร้อยละ 28 ระบุว่า ต้องกู้เงินในระบบ ร้อยละ 24.6 บอกว่า ต้องจำนำทรัพย์สิน ร้อยละ 17.9 ต้องยืมญาติพี่น้อง และ ร้อยละ 17.8 ต้องกู้เงินนอกระบบ


ทั้งนี้ ด้านความเห็นต่อปัญหาการศึกษา ร้อยละ 73.6 พบว่า ต้องมีการเรียนพิเศษเพิ่มเติมเพื่อแข่งขันต่อ ร้อยละ 73.3 พบว่า ไม่มีโอกาสให้ลูกหลานได้เรียนในสถาบันที่ดี ร้อยละ 72.1 เห็นว่า จรรยาบรรณในวิชาชีพของครูน้อยลง ร้อยละ 71.6 ระบุว่า ข้อสอบวัดมาตรฐานไม่อิงกับหลักสูตรการเรียนการสอน ร้อยละ 71.4 เห็นว่า หลักสูตรในระดับปฐมวัยเร่งรัดด้านการเรียนมากไป และร้อยละ 70.6 บอกว่า จำนวนครูไม่เพียงพอต่อความต้องการ

ส่วนเรื่องการเล่นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของบุตรหลาน เช่น สมาร์ทโฟน แทบเล็ต เกมส์ออนไลน์ เครื่องเล่นเกมส์ที่บ้าน เกมส์ตู้ และเกมส์พกพาขนาดเล็ก ผู้ปกครองมากกว่าร้อยละ 83.2 ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า เล่นแล้วไม่ทำให้เสียการเรียน โดยเฉพาะการเล่นสมาร์ทโฟน มีผู้ปกครองสูงถึงร้อยละ 97.3 ระบุว่า เล่นแล้วไม่เสียการเรียน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง