เตรียมตั้งรมว.กระทรวงการอุดมศึกษาฯ

ทำเนียบฯ 3 พ.ค.- “พล.อ.อ.ประจิน” เผย ครม.สัปดาห์หน้า รู้ตัวรักษาการรัฐมนตรีกระทรวงอุดมศึกษาวิทยาศตร์ วิจัยและนวัตกรรม ย้ำกระทรวงใหม่ มุ่งหวังพัฒนางานวิจัย เทคโนโลยี และบุคคลากร  เตรียมให้ปลัด ยธ.และ ป.ป.ส.แจงประเด็นน้ำมันกัญชา


พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวก่อนเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมครั้งที่ 2/2562 ถึงการตั้งกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์  วิจัย และนวัตกรรม (อว.)  ที่เริ่มทำงานตั้งแต่วานนี้ 2 พ.ค.ว่า ขณะนี้กฎหมายที่เกี่ยวข้องมีผลบังคับใช้แล้วเกือบทั้งหมด ซึ่งกระทรวงใหม่นี้จะแบ่ง ภารกิจเป็น 2 กลุ่มหลัก คือ 1.ด้านวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม 2.การอุดมศึกษา ที่ครอบคลุมสถาบันการศึกษา ทั้ง 158 สถาบัน รวมถึงสถาบันการศึกษาของเอกชน ซึ่งจะไม่มีหน่วยงานกำกับ แต่จะทำงานในรูปแบบของคณะกรรมการ ซึ่งจะมาดูในเรื่องของนโยบายในด้านการศึกษาที่จะทำให้เกิดประสิทธิภาพ ทั้งในด้านวิชาการและเรื่องของการวิจัยสร้างนวัตกรรมที่จะต้องนำไปสู่ชุมชนและสังคม ในการขับเคลื่อนประเทศ สอดรับเป้าหมายไทยแลนด์ 4.0  โดยภารกิจสำคัญของกระทรวง คือ การพัฒนาและผลิตบุคคลากรที่ตรงต่อความต้องการของประเทศ  การส่งเสริมงานวิจัยและนวัตกรรม และการรักษาศิลปะวัฒนธรรม

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 7 พ.ค. นี้ ต้องติดตามความชัดเจนของตัวผู้บริหารกระทรวง อว. โดยเฉพาะในตำแหน่งรักษาการรัฐมนตรี และปลัดกระทรวง เพราะมีความจำเป็นในการขับเคลื่อนกระทรวงในช่วงเริ่มต้นนี้ ขณะที่ข้าราชการทุกคนจะมีตำแหน่งในระดับที่เท่าเดิมหรือสูงกว่าเดิม ส่วนที่จะเปลี่ยนไปสังกัดหน่วยงาน ซึ่งเป็นองค์การมหาชน ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของตัวข้าราชการ และการประเมินการทำงาน  นอกจากนี้ จะเน้นใช้บุคคลากรจากหน่วยงานเดิม ให้ครอบคลุมงานทั้งหมดของกระทรวงก่อนที่จะพิจารณาเปิดอัตรากำลังพลเพิ่มเติม 


ส่วนกรณีที่นายเดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ ระบุว่า มีนักการเมืองไทย จ้างปลูกกัญชาแปลงใหญ่ ผลิตน้ำมัน 30 ตัน ไว้ขายใต้ดินนั้น พล.อ.อ.ประจิน กล่าวว่า ยังไม่ทราบรายละเอียด ขอตรวจสอบก่อน ในวันที่ 7 พ.ค.นี้ จะมีการประชุมติดตามในเรื่องดังกล่าว  หากมีความชัดเจนแล้วจะให้ปลัดกระทรวงยุติธรรม และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ออกมาชี้แจงข้อมูลในเรื่องนี้ต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง