พท.เตรียมยื่น กกต.เอาผิด พปชร.แจกเงิน อสม.

เพื่อไทย 1 พ.ค.- เพื่อไทยเตรียมยื่น กกต.ตรวจสอบกรณี ครม. เพิ่มเงิน อสม. ก่อนการเลือกตั้งเพียงไม่กี่วัน เข้าข่ายใช้อำนาจในทางมิชอบ เอื้อประโยชน์ให้พลังประชารัฐ


พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์  หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคและ นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานด้านกฎหมายพรรค ได้ร่วมกันแถลง กรณีที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติ เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2561 ให้เพิ่มค่าตอบแทนแก่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) จาก เดิม 600 บาทต่อเดือนเป็น 1,000 บาทต่อเดือน จำนวน 4,000 ล้านบาท ให้ อสม.กว่า 1 ล้านคนทั่วประเทศ และได้มีการจ่ายเงินดังกล่าวแก่ อสม. ก่อนวันเลือกตั้งเพียง 2-4 วัน  ซึ่งขณะนั้นกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ยังดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีอยู่ และเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่ออนุมัติงบให้ อสม.ด้วย และยังสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค และนำเรื่องดังกล่าวมาหาเสียงเลือกตั้ง อ้างเป็นนโยบายของพรรค

นายชูศักดิ์ กล่าวว่า การที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติเงินเพิ่มแก่ อสม. ดังกล่าวจึงเข้าข่ายเป็นเจ้าหน้าที่รัฐใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบ กระทำการเพื่อเป็นคุณแก่พรรคพลังประชารัฐ อันเป็นการฝ่าฝืน มาตรา 78 และมาตรา 149 แห่ง พรป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ปี 2561   และแม้จะเป็นการใช้เงินงบประมาณแผ่นดินเพื่อเพิ่มเงินแก่ อสม. แต่เมื่อพฤติการณ์ของการกระทำดังกล่าว มีลักษณะเป็นการร่วมมือกัน หรือรู้เห็นเป็นใจร่วมกัน ระหว่างคณะรัฐมนตรีและกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ อาจเป็นไปเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งโดยเฉพาะ อสม. ได้ลงคะแนนเลือกผู้สมัครของพลังพรรคประชารัฐ 


“มีข้อเท็จจริงว่าหลังจาก ครม.อนุมัติแล้ว ถัดมาไม่กี่วันว่าที่ผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐ ก็ได้นำเรื่องดังกล่าวไปหาเสียงกับประชาชน การกระทำของคณะรัฐมนตรีจึงอาจเข้าข่ายเป็นการให้ทรัพย์สินแก่บุคคลใด เพื่อจูงใจผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้ลงคะแนนเสียงให้กับผู้สมัครหรือพรรคการเมือง ตามมาตรา 73 (1) ของกฎหมายเลือกตั้งด้วย ซึ่งทำให้การเลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจริตแล้วเที่ยงธรรม จึงจะไปยื่นเรื่องให้ กกต.ตรวจสอบเอาผิดในบ่ายวันนี้” นายชูศักดิ์ กล่าว

ด้าน นายภูมิธรรม กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยไม่ได้คัดค้านการจ่ายเงินให้ อสม. เพราะการดูแล อสม.เป็นหน้าที่ของทุกพรรค แต่มองว่าช่วงเวลาจ่ายเงินมีความไม่เหมาะสม ทำให้เชื่อได้ว่าเป็นการใช้เงินเพื่อจูงใจ ซึ่งวิธีการลักษณะนี้ถือว่าเป็นการสร้างปัญหาให้กับประเทศ ใช้ช่องทางของกฎหมายเอื้อประโยชน์ให้กับพรรคการเมือง  .- สำนักข่าวไทย       


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้ห้องพักคอนโดฯ หรูกลางเมืองพัทยา

เพลิงไหม้คอนโดมิเนียมหรูกลางเมืองพัทยา จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ระดมรถน้ำควบคุมเพลิงได้ทัน ทำให้ไฟไม่ลุกลามห้องข้างเคียง

จับ “ใบเฟิร์น” อินฟลูฯสาวชื่อดัง โพสต์ชวนเล่นพนันออนไลน์

ตำรวจไซเบอร์ รวบ “ใบเฟิร์น กุลธาดา” อินฟลูฯ สาวแนวเซ็กซี่ ผู้ติดตามหลักล้าน แปะลิงก์เว็บพนันออนไลน์ เจ้าตัวยอมรับ ทำมาแล้ว 2-3 เดือน

ลิงลพบุรีแหกกรง กว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพัก

ลิงลพบุรีกรงแตก เพ่นพ่านกว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพักท่าหิน ตำรวจปิดประตูหน้าต่างวุ่น ล่าสุดกลับมากินอาหารในกรงแล้วกว่า 100 ตัว กรมอุทยานฯ เร่งลุยจับ คาดใช้เวลา 2-3 วัน

ข่าวแนะนำ

คุมตัวสาวใหญ่โหดฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์ทำแผนฯ

ตร. คุมตัวสาวใหญ่โหด ลวงเพื่อนฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เจ้าตัวสำนึกผิด ฝากขอโทษญาติผู้เสียชีวิต ยอมรับทำเพราะติดหนี้พนันออนไลน์

Drone video captures severe flooding caused by super typhoon Man-Yi in the Philippines

ฟิลิปปินส์น้ำท่วมหนัก หลังไต้ฝุ่น “หม่านหยี่” ถล่ม

มะนิลา 18 พ.ย. – ฟิลิปปินส์เกิดน้ำท่วมรุนแรงในหลายพื้นที่ หลังจากซูเปอร์ไต้ฝุ่นหม่านหยี่ (Man-yi) พัดถล่มเกาะลูซอน ช่วงสุดสัปดาห์ เป็นไต้ฝุ่นลูกที่ 6 ในรอบ 1 เดือน ไต้ฝุ่นขึ้นฝั่งด้วยความเร็วลมสูงสุด 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้เกิดคลื่นสูง 7 เมตรบริเวณริมชายฝั่ง ส่งผลกระทบประชากรกว่า 760,000 คน และทำให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่จังหวัดนูเอวาเอซีฮา ทางตอนกลางของเกาะลูซอน ที่มีน้ำท่วมสูงเฉลี่ยเกือบ 1 เมตร นอกจากนี้ยังทำให้เกิดดินถล่มและสาธารณูปโภคพังเสียหายมากมาย ประชาชนมากกว่า 1 ล้านคนต้องอพยพไปอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ พายุหม่านหยี่เป็นพายุไต้ฝุ่นลูกที่ 6 ที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ในช่วง 1 เดือน ทั่วทั้งประเทศต้องตื่นตัวเพื่อรับมือภัยพิบัติด้วยมาตรการต่าง ๆ.-812(814).-สำนักข่าวไทย

ฆ่าตัดนิ้ว

เปิดปากสารภาพฆ่าตัดนิ้วแม่ยายอัยการ ชิงทรัพย์ล้างหนี้พนัน

หญิงวัย 56 ปี เปิดปากสารภาพฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์แม่ยายอัยการ ก่อนนำทรัพย์สินไปขายใช้หนี้พนัน ตำรวจคุมตัวไปตามหาทรัพย์สินของกลาง อ้างลงมือก่อเหตุคนเดียว