เซอเรมบัน 27 เม.ย.- มาเลเซียกวาดล้างโรงงานรับรีไซเคิลขยะพลาสติกที่ไม่มีใบอนุญาต หลังจากมีผู้ฉวยโอกาสหวังทำเงินจากการที่จีนห้ามนำเข้าขยะพลาสติกตั้งแต่ปีก่อน ทำให้ขยะจากประเทศร่ำรวยต้องหาที่ทิ้งในประเทศอื่น และหนึ่งในนั้นคือมาเลเซีย
เว็บไซต์ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีก่อน ทางการมาเลเซียปิดโรงงานรีไซเคิลขยะพลาสติกที่ไม่มีใบอนุญาตแล้วไม่ต่ำกว่า 148 แห่ง แต่ดำเนินคดีจริงเพียงไม่กี่ราย นางเหยียว บียิน รัฐมนตรีพลังงาน วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สิ่งแวดล้อมและสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงของมาเลเซียซึ่งพาสื่อไปดูการบุกจับโรงงานเถื่อนล่าสุดกล่าวว่า โรงงานเหล่านี้ทำผิดกฎหมายคุณภาพสิ่งแวดล้อม เพราะไม่มีใบอนุญาตและก่อมลพิษ พร้อมกับแสดงความไม่พอใจไปยังประทศร่ำรวยที่ส่งออกขยะเหล่านี้มายังมาเลเซียว่า ทุกประเทศควรจัดการขยะของตัวเอง อย่าใช้ประเทศอื่นเป็นที่ทิ้งขยะ
ข้อมูลของกรีนพีซระบุว่า ช่วง 7 เดือนแรกของปีก่อน สหรัฐส่งออกขยะพลาสติกมามาเลเซียเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้านั้นกว่าสองเท่า ขณะที่ข้อมูลของรัฐบาลมาเลเซียระบุว่า นอกจากสหรัฐแล้วยังมีญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร เยอรมนี และฮ่องกงด้วย จูงใจให้โรงงานเถื่อนลอบเปิดตามชนบทหวังทำเงินจากขยะเหล่านี้ พลาสติกแต่ละชนิดมีราคาไม่เท่ากัน โรงงานเถื่อนหลายแห่งใช้วิธีซื้อเหมา แล้วคัดพลาสติกราคาถูกไปทำลายด้วยการเผาหรือทิ้งอย่างผิดกฎหมายเพราะประหยัดกว่าการผ่านกระบวนการที่ก่อมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่า
ด้านเจ้าของโรงงานที่มีใบอนุญาตรีไซเคิลเผยว่า ขยะพลาสติกมีค่าไม่ต่างจากทองคำ เม็ดพลาสติกที่ได้จากการรีไซเคิลขยะพลาสติกขายได้ตันละ 850 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 27,136 บาท) นำไปผลิตเป็นสินค้าใหม่ได้มากมาย สมาคมผู้ผลิตพลาสติกมาเลเซียที่มีโรงงานรีไซเคิลขยะพลาสติกถูกกฎหมาย 90 แห่ง ร่วมอยู่ในสมาชิกทั้งหมด 750 รายเผยว่า ลำพังขยะพลาสติกในประเทศไม่เพียงพอต่ออุตสาหกรรมนี้ จึงต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศ คำสั่งรัฐบาลเดือนตุลาคมปีก่อนที่ระงับการนำเข้าขยะพลาสติกเป็นการชั่วคราวจึงกระทบต่อผู้ผลิตที่ปฏิบัติตามระเบียบและกฎหมาย.-สำนักข่าวไทย