จาการ์ตา 14 เม.ย.- อิทธิพลทางเศรษฐกิจของจีนกำลังเป็นประเด็นถกเถียงในการเลือกตั้งอินโดนีเซียวันที่ 17 เมษายนนี้ เมื่อฝ่ายค้านกล่าวหารัฐบาลว่าดำเนินนโยบายเอาใจจีน จนประเทศที่อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติแห่งนี้แบกรับหนี้สิน เพราะทยอยขายประเทศให้แก่ผลประโยชน์ต่างชาติ
พล.ท.ปราโบโว ซูเบียนโต หัวหน้าพรรคเกอรินดาที่ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีและมีคะแนนนิยมตามหลังประธานาธิบดีโจโก วิโดโดคนปัจจุบันเป็นตัวเลขสองหลัก ชูนโยบายชาตินิยมอย่างแข็งขันและประกาศจะทบทวนการลงทุนของจีน รวมทั้งโครงการที่อินโดนีเซียได้รับจากโครงการเส้นทางสายไหมศตวรรษที่ 21 (Belt and Road) ที่เป็นความริเริ่มของจีน โดยระบุว่าการหลับหูหลับตารับมาอาจเป็นอันตรายต่อประโยชน์ประเทศ
ประธานาธิบดีวิโดโดผลักดันการลงทุนจากจีนหลายโครงการตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งในปี 2557 เพื่อสร้างถนน ท่าอากาศยาน และโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ทั่วประเทศที่เต็มไปด้วยเกาะแก่งกว่า 17,000 เกาะตามที่ได้หาเสียงไว้ จุดกระแสวิตกว่าคนงานจีนจะทะลักเข้าประเทศและอินโดนีเซียจะต้องแบกรับหนี้สินที่ไม่ยั่งยืน ความกังวลเรื่องถูกชาวจีนรุกล้ำตอกย้ำความรู้สึกของคนบางส่วนที่ไม่พอใจเรื่องเศรษฐกิจประเทศถูกมหาเศรษฐีชาวอินโดนีเซียเชื้อสายจีนควบคุมมานาน
เดซี ซิมันด์จุงตัก นักวิจัยชาวอินโดนีเซีย สถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษาที่สิงคโปร์ชี้ว่า อิทธิพลทางเศรษฐกิจของจีนที่เพิ่มขึ้นกลายเป็นประเด็นเลือกตั้งในเอเชียหลายประเทศไปแล้ว นักการเมืองฝ่ายค้านหลายคนชนะเลือกตั้งหลังจากวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลเรื่องนโยบายเอาใจจีน ขณะที่ทริสเซีย วิจายา ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจการเมืองเอเชียตะวันออก มหาวิทยาลัยเมอร์ดอคในออสเตรเลียมองว่า ทุนจากจีนโยงกับลัทธิคอมมิวนิสต์และกำลังฝังแน่นในความคิดของชาวอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นเรื่องอันตราย แต่กระแสถกเถียงเรื่องรัฐบาลวิโดโดเอาใจจีนก็เต็มไปด้วยการให้ข้อมูลเท็จ การลงทุนของจีนส่วนใหญ่เป็นภาคอุตสาหกรรม เช่น การทำเหมือง ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่มีความอ่อนไหวน้อย และมักเป็นการทำข้อตกลงกับบริษัทเอกชน นำทุนเข้ามาลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานเป็นหลัก.-สำนักข่าวไทย