กทม. 16 ก.พ. – นายกฯ ปลื้มเล่าละเอียดอีกรอบเยือนจีนอย่างเป็นทางการ สรุปย้ำไทยได้ประโยชน์ความมั่นคง-การค้า-เสริมสร้างความสัมพันธ์ให้ยาวนาน พร้อมเปิดอีกมุมเล่าจากภาพถ่ายฝีมือตัวเองในมือถือ ที่พักเรือนรับรอง-เซลฟี่ “หลี่ เฉียง” บอดี้การ์ดหญิงที่ดังในโซเชียล
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร” ตอนพิเศษ เกี่ยวกับการเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ ในโอกาส 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ระหว่าง 5-8 ก.พ.ที่ผ่านมา ว่า รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เจอผู้นำ 3 ระดับของสาธารณรัฐประชาชนจีน คือ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ประธานสภาประชาชนแห่งชาติสาธารณรัฐประชาชนจีน นายจ้าว เล่อจี้ และนายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง ซึ่งเป็นเรื่องน่าภูมิใจ เพราะการได้พบผู้นำประเทศจีนทั้ง 3 ระดับนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นทุกครั้ง ถือเป็นความภาคภูมิใจของประเทศไทย โดยได้หารือถึงการส่งมอบแพนด้ายักษ์ 2 ตัว มาไทย นอกจากนี้ยังหารือเรื่องการสร้างซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติฯ 72 พรรษา และได้เชิญชวนนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาชมความสวยงามของซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติฯ โดยเฉพาะช่วงเดือนเมษายน ที่มีเทศกาลสงกรานต์ โดยได้เน้นย้ำและให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวจีนว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจและตำรวจท่องเที่ยวจะดูแลพี่น้องนักท่องเที่ยวจีนเป็นอย่างดี และได้เล่าเรื่องพระเขี้ยวแก้วให้กับสื่อมวลชนจีนรับทราบ ว่าประชาชนไทยได้เข้าสักการะ ต่างฝ่ายชื่นชมซึ่งกันและกัน รวมถึงแผนงาน ความสัมพันธ์ระหว่างกันในอีก 50 ปีต่อจากนี้ของทั้ง 2 ประเทศ เพื่อให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดี และช่วยเหลือเกื้อกูลกันแบบนี้ นี่คือธีมที่ 2 ประเทศได้คุยกัน
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า สำหรับความร่วมมือในการปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์นั้นทั้ง 2 ประเทศได้พูดคุยอย่างจริงจัง ซึ่งประธานาธิบดีจีนชื่นชมไทยที่มีการจัดการเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างเด็ดขาด และจะตั้งทีมทํางาน 2 ทีม เพื่อช่วยกันในเรื่องนี้ โดยจีนประสงค์จะช่วยมากกว่านี้ แต่ได้ขอแค่การตั้ง 2 ทีม ที่จะสามารถสั่งการได้อย่างรวดเร็ว โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศช่วยกํากับดูแลในการพูดคุยของทั้ง 2 ทีม ให้สามารถหาข้อสรุปได้ทันที จึงนับว่าเป็นเรื่องที่ได้ประโยชน์

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ได้มีการร่วมมือด้าน “ซอฟต์พาวเวอร์” ระหว่างกัน เช่น มวยไทย ร้านอาหารไทย ว่าจะทำอะไรกับจีนได้บ้าง โดยจะมี working team มาติดต่อกันอีกครั้ง ส่วน สินค้าเกษตรของไทยนั้น จะให้จีนกับไทยร่วมกันกําหนดมาตรฐาน เพื่อให้มีมาตรฐานเท่ากัน โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะรับไปดำเนินการต่อ เพื่อให้ผู้ประกอบการเสียต้นทุนน้อยที่สุด มีกำไรมากขึ้น เกิดความสะดวกเพิ่ม เป็นการเปิดช่องทางสินค้าเกษตรไทย ซึ่ง ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้กล่าวว่า ชอบทุเรียนหมอนทอง และมะม่วง พอได้ยินอย่างนั้น ในฐานะคนไทยก็ดีใจ
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ได้คุยกับจีนเรื่อง รถไฟความเร็วสูง และ โครงการ Landbridge ว่า รถไฟความเร็วสูงระยะที่ 1 และ 2 ยังอยู่ในขั้นตอนการก่อสร้าง หากเสร็จแล้วทั้งจีน ลาว ไทย จะสามารถส่งสินค้าได้อย่างรวดเร็ว และยังสามารถส่งทุเรียนหมอนทองไปมอบให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้ เป็นการลดต้นทุน เพิ่มโอกาส SME และเกษตรกรไทย และยังเป็นอีกช่องทางสำหรับผู้ที่จะทำธุรกิจ ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลา ประหยัดต้นทุน ซึ่งจีนให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าวมาก และขอให้ไทยเร่งดำเนินการ ซึ่งได้สั่งการกระทรวงที่เกี่ยวข้องให้เร่งรัดเรื่องนี้แล้ว ขณะที่จีนให้ความสนใจโครงการ Landbridge มากเช่นกัน และต้องการให้โครงการดังกล่าวเกิดขึ้น หากโครงการเกิดขึ้น จะมีการเชื่อมกันและจีนได้ขอข้อมูลผลการศึกษาโครงการเนื่องจากจีนเห็นถึงประโยชน์ที่จะได้รับจากโครงการดังกล่าว ซึ่งจะเกิดผลดีทั้งจีนและประเทศเพื่อนบ้าน โดยจะมอบหมายให้ทีมที่ทำการศึกษาโครงการดังกล่าว ส่งข้อมูลเพิ่มเติมไปให้ รวมทั้งการเชิญชวนมาลงทุนด้วย
“การมี Landbridge จะช่วยลดเวลาการส่งออกได้ 4 วัน สามารถประหยัดต้นทุนของผู้ประกอบการได้ 15 % ช่วยประหยัดน้ำมัน ทำให้ต้นทุนถูกลง ผู้บริโภคก็ซื้อของในราคาที่ถูกลงด้วย ได้ผลดีทั้งระบบ โดยจะดำเนินการควบคู่กับเรื่อง Green Energy ประหยัดพลังงานด้วย ทั้งยังตั้งเป้าให้ประเทศไทยเป็นฮับโลจิสติกส์ สร้างโอกาสการจ้างงาน และการซื้อขายสินค้าจะเห็นผลเป็นระบบครบวงจรมากขึ้น”นายกรัฐมนตรีกล่าว

สำหรับความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้าและการลงทุน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ได้เชิญชวน บริษัท Xiaomi ให้มาสร้างโรงงานผลิตรถ EV ที่ประเทศไทย เพื่อเพิ่มโอกาสการจ้างงานในประเทศ ซึ่งไทยได้พูดคุยกับประเทศในอาเซียน และมีบทบาทในเวทีอาเซียน ก็จะเป็นอีกข้อเสนอสำคัญที่นักลงทุนต่างชาติจะเข้ามาลงทุนในประเทศทั้งนี้ ได้มีการเซ็น MOU 14 ฉบับ ซึ่งเป็นสิ่งที่สื่อจีนให้ความสนใจ และได้ประโยชน์ อาทิ ข้อมูลออนไลน์ต่าง ๆ ที่จะแชร์ร่วมกันระหว่างไทยกับจีน สแกมเมอร์ ข้อมูลการพัฒนาต่าง ๆ เช่น เครื่องมือทางการเกษตร เป็นต้น ซึ่งจะสามารถนำไปพัฒนาต่อยอดได้ นอกตากนี้ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงเองอยากให้มี FTAไทยกับจีนเพื่อเปิดการค้าเสรีเพิ่มมากขึ้นซึ่งเรากำลังดำเนินการ
ส่วนการพบภาคเอกชนและสื่อมวลชนจีน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นการพบกับและพูดคุยกับอินฟลูเอนเซอร์ อย่าง POP MART Xiao Hong Shu Meitu Dianping เรื่องการนำร้านอาหารไทย ขึ้นบนแพลตฟอร์มจีน โดยได้แนะนำ แอปฯ สำหรับนักท่องเที่ยว ที่ตำรวจไทยจัดทำขึ้น เพราะต้องการให้นักท่องเที่ยวใช้ หากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่ปลอดภัย เพื่อให้นำไปไว้บนแพลตฟอร์มจีน และขอขอบคุณที่มาช่วยกันสื่อสารให้กับประชาชนจีนทราบ
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้ร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว ครั้งที่ 9 รู้สึกประทับใจที่ได้นำเสนอแต่ละประเทศ อย่างสวยงาม พร้อมได้พบให้กำลังใจนักกีฬาไทย รู้สึกดีใจมาก ได้ร่วมชมและเชียร์การแข่งขัน Ice Hockey ชายทีมชาติไทย และคิดว่าน่าจะนำกองเชียร์ไทยไปร่วมเชียร์ พร้อมให้กำลังใจนักกีฬาที่ร่วมแข่งขันและรู้สึกประทับใจนิทรรศการน้ำแข็งที่มีสวยงามมาก รวมถึงพิธีเปิดการแข่งขัน อีกทั้ง ได้แสดงความยินดีกับความสำเร็จของ นายปอล ฮองรี วิเยอร์ต๊องส์ นักกีฬาเอเชียนวินเทอร์เกมส์ ที่คว้าเหรียญทองแดงแรกจากกีฬา Freestyle skiing
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเดินทางครั้งนี้ว่าได้ถ่ายภาพบางช่วง โดยได้นำภาพที่ถ่ายเองจากมือถือมาเล่าให้ฟัง เช่นเป็นภาพที่พักเรือนรับรองเตียวหยูไถ่ ให้กับรัฐบาลไทย ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจเพราะไม่ได้เข้าไปอยู่ได้ง่ายๆ เป็นเรื่องความสัมพันธ์ที่แนบแน่นพี่น้องกัน นอกจากนี้ยังมีภาพที่ถ่าย ให้กับรัฐมนตรีของไทย และ นายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง และภาพตัวเองเซลฟี่กับนายกรัฐมนตรีจีนซึ่งได้มีการพูดคุยเรื่องลูกและหลาน นอกจากนี้ยังมีภาพพวงกุญแจเสือ ที่เป็นมาสคอตของกีฬา และภาพบอดี้การ์ดหญิงที่ปรากฏในโซเชียล รวมถึงภาพที่พบกับภาคเอกชนที่จะมีการมอบของขวัญ ซึ่งเป็นผ้าครามลายขอ ลายพระราชทานซึ่งเป็น Soft Power ของไทยมอบให้
นายกรัฐมนตรีได้สรุป 3 เรื่องใหญ่ที่คนไทยและประเทศไทยจะได้รับจากการเดินทางเยือนประเทศจีนครั้งนี้ คือ เรื่องแรก ความมั่นคง ได้ความร่วมมือการแก้ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งปัญหาดังกล่าวจะต้องลดลงและเห็นผลอย่างรวดเร็ว เรื่องที่สอง คือ การค้า Landbridge การตรวจสอบคุณภาพ (QC) สินค้าที่จะส่งออก จะสามารถส่งออกสินค้าได้เร็วขึ้น ไม่เสียต้นทุนมาก โดยเฉพาะ Landbridge เมื่อเกิดขึ้น ช่วยประหยัดพลังงาน มีการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น มีการจ้างเพิ่ม สินค้าเกษตรที่ล้นตลาดก็จะไม่ล้น และสาม คือ ความสัมพันธ์ระดับประชาชน-ประชาชน (People to people) เชื่อมสัมพันธ์ของไทย-จีน ที่มีต่อไปในอีก 50 ปีข้างหน้า ซึ่งต่างเห็นพ้องว่าจะเสริมสร้างความสัมพันธ์แบบนี้ให้ยาวนานต่อไป.-319 -สำนักข่าวไทย