นายกฯ สั่งมั่นคงเข้มดูแล ปชช.ชายแดนใต้ ควบคู่ทำความเข้าใจ

ทำเนียบ 6 พ.ค.- นายกฯ สั่งฝ่ายความมั่นคงเข้มดูแลประชาชนพื้นที่ชายแดนใต้ พร้อมพูดคุยทำความเข้าใจควบคู่ ขออย่าใช้คำแบ่งแยกเชื้อชาติ-ศาสนา บอกทุกคนก็คือคน เผย “ทักษิณ” คุย “อันวาร์” ตลอด เพราะเป็นเรื่องสำคัญ ลั่นผู้กระทำผิดต้องได้รับโทษ


น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ว่า ได้สั่งการไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งรัฐบาลไม่สนับสนุนความรุนแรงทุกรูปแบบ ขณะเดียวกันได้สั่งการทั้งทหารตำรวจ รวมถึงพูดคุยกับนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้ตรึงกำลังดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มข้น พร้อมได้สั่งการให้มีการพูดคุยทำความเข้าใจว่า มีอะไรที่รัฐบาลจะให้การสนับสนุนและให้ความร่วมมือได้บ้าง

“สิ่งที่อยากเน้นย้ำและขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนให้ช่วยกัน คือ ไม่อยากให้มีการแบ่ง เรื่องศาสนาเชื้อชาติ เพราะทุกคนก็คือคน ที่มีครอบครัว เราไม่ต้องมาแบ่งแยกเรื่องนี้ และไม่ควรมีความรุนแรงเกิดขึ้น ย้ำว่ารัฐบาลไม่สนับสนุนความรุนแรง ทุกชีวิตที่เสียไปมีคุณค่าและมีความหมาย จึงอยากให้ช่วยกันทำความเข้าใจเรื่องนี้ว่าเราไม่มีการแบ่งแยกเชื้อชาติศาสนา” นายกรัฐมนตรี ระบุ


เมื่อถามว่าฝ่ายความมั่นคงมีการวิเคราะห์หรือไม่ถึงสาเหตุที่เกิดความรุนแรงในพื้นที่ภาคใต้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า มีการวิเคราะห์ในหลายรูปแบบ ทั้งเรื่องความขัดแย้งหลายอย่าง ซึ่งเราก็ดูในเรื่องนี้ รวมถึงเรื่องความปลอดภัยได้เพิ่มกำลังดูแล ควบคู่กับการทำความเข้าใจ ว่ามีความเข้าใจผิดเกิดขึ้นอย่างไรบ้าง หรืออยากจะเข้าใจอะไรเพิ่มเติม เป็นเรื่องของการสื่อสารที่เราทำประกอบกันไม่ใช่การเพิ่มกำลังอย่างเดียว

เมื่อถามว่า การเจรจาพูดคุยนอกจากช่องทางของรัฐบาลแล้ว มีการใช้ช่องทางของ นายทักษิณ ชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ปรึกษาประธานอาเซียนด้วยหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า นายทักษิณ ได้มีการติดต่อพูดคุยกับ นายอันวาร์ อิบราฮิม ประธานอาเซียนอยู่แล้วว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ ซึ่งพร้อมสนับสนุนเรื่องการพูดคุยกันและมีหลายช่องทาง แต่ก็ยังไม่ได้มีการมูฟอะไร (เดินหน้าอะไร) ย้ำว่าพร้อมในการพูดคุย

ส่วนจะสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนอย่างไรเพราะเหตุการณ์ในพื้นที่ภาคใต้กลับมารุนแรงอีกครั้งเหมือน 20 ปีก่อน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้มีทหารลงพื้นที่เข้าไปตั้งด่านเรียบร้อยแล้ว เรื่องสรรพกำลัง ได้มีการเตรียมอย่างเต็มที่ เป็นเชิงรุกว่า ใครที่ทำผิดกฏหมายก็ต้องถูกดำเนินการตามกระบวนการ แต่อย่างที่บอกว่า มีทั้งเรื่องของ กำลังเจ้าหน้าที่และการทำความเข้าใจ ซึ่งต้องทำงานทั้งสองอย่างประกอบกัน


เมื่อถามว่าผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนพบว่ายังไม่เชื่อมั่นรัฐบาลในการแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า รัฐบาลทำมาโดยตลอด ทั้งเรื่องการทำความเข้าใจ และกำลังของเจ้าหน้าที่ยิ่งตอนนี้มีเรื่องความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ก็เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปอย่างเต็มที่ และโฟกัสเรื่องความปลอดภัยของประชาชน โดยเมื่อช่วงเช้าได้พูดคุยในที่ประชุม ครม. สำหรับบางพรรคร่วมรัฐบาลที่มี สส. ในพื้นที่ก็ได้รายงานเรื่องนี้ ซึ่งเราจับตาดูเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดไม่ได้ปล่อยไปไหนอย่างแน่นอน

ส่วนเรื่องการเจรจาทางทการไทยได้มีข้อเรียกร้องไปถึงกลุ่ม BRN หรือไม่ ว่าอยากเจรจากับใครโดยตรง อย่างเช่นผู้นำจิตวิญญาณ นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าทางผู้อำนวยการสะดวกรับเรื่องนี้ไปแล้ว เพื่อที่จะติดต่อกับผู้ที่จะเข้ามาพูดคุย

เมื่อถามถึงการออกแถลงการณ์ของกลุ่ม BRN ที่ประณามความรุนแรงและไม่ได้โจมพลเรือน พร้อมเรียกร้องให้หาตัวผู้กระทำผิดอย่างจริงจัง นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เรื่องการหาตัวผู้กระทำความผิดเราเต็มที่อยู่แล้ว ได้มีการสั่งการไปยังตำรวจเรียบร้อยแล้ว เพราะผู้กระทำความผิดต้องถูกดำเนินคดีตามกฏหมาย ไม่อย่างนั้นผู้บริสุทธิ์ก็จะรู้สึกไม่ปลอดภัย ถ้าเราไม่สามารถจับคนผิดได้เลย ประชาชนธรรมดาก็จะอยู่ในพื้นที่ลำบาก เรื่องนี้ไม่ปล่อยไปไหน และได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปอย่างละเอียดแล้วว่าต้องทำอะไรบ้าง .-316 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ครม.แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​-​คดีพิเศษ-​พศ.

ทำเนียบฯ 24 ก.ย. – ครม. แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ มอบ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​ -​ คดีพิเศษ -​ สำนักพุทธฯ​ ขณะที่ “เอกนิติ​” คุมพาณิชย์​ -​ สำนักงบฯ ด้าน “ธรรมนัส​” คุมท่องเที่ยว​ -​ เกษตร​ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี​นัดพิเศษ นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ มีมติแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรี​ 6 คน​ ประกอบด้วย นายพิพัฒน์​ รัชกิจประการ​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ดูแลกระทรวงคมนาคม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพลังงาน​ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์​แห่งชาติ​ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒฒาพิเศษ​ภาคตะวันออก​ (อีอีซี) นายโสภณ​ ซารัมย์​ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลด้านสังคม​ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ​ (ส​ทนช.) […]

ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างหน้าวชิรพยาบาล แนะเลี่ยงเส้นทาง

24 ก.ย.- ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างบริเวณหน้าวชิรพยาบาล จนท.เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วย-ประชาชนใกล้เคียง ออกนอกพื้นที่เสี่ยง แจ้งเตือนหลีกเลี่ยงเส้นทางอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจร ช่วงประมาณ 07.13 น. ศูนย์วิทยุพระราม199 รางานเหตุถนนทรุดตัวเป็นบริเวณกว้างใกล้เคียงอาคารของโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยสามเสน ถึงที่เกิดเหตุ ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นถนนทรุดตัวขนาดใหญ่ เป็นหลุมกว้าง 30 x 30 เมตร ลึก 50 เมตร ทรุดตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งบริเวณหน้าโรงพยาบาลและหน้าสถานีตำรวจสามเสน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและประชาชนใกล้เคียง ออกจากจุดที่เกิดเหตุ ล่าสุดสำนักงานเขตดุสิต แจ้งปิดการจราจรแยกวชิรพยาบาล – แยกซังฮี้ และบริเวณใกล้เคียงโดยรอบ เนื่องจากเหตุผิวจราจรทรุดตัวส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณูปโภคโดยรอบ และอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจรใกล้เคียงได้ -สำนักข่าวไทย

ครม. ตั้ง “ไตรศุลี” นั่งเลขาธิการนายกฯ อายุน้อยที่สุด

ทำเนียบ24 ก.ย. – ครม.นัดพิเศษ ตั้ง “ไตรศุลี ไตรสรณกุล” เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ วันนี้ (24 ก.ย.) มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม ครม. มีมติแต่งตั้งให้นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี หรือเรียกกันว่า “นายกฯ น้อย” ถือเป็นตำแหน่งสำคัญ ต้องคอยสนับสนุนการทำงานของนายกรัฐมนตรี รวมถึงการบริหารจัดการงานทั่วไป และประสานงานให้กับนายกรัฐมนตรีโดยตรง นอกจากนี้ ยังเป็นตำแหน่งที่จะต้องรวบรวมวิเคราะห์ และกลั่นกรองข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำเสนอความเห็นประกอบการพิจารณา และการสั่งการของนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม นางสาวไตรศุลี ถือเป็นผู้ที่รับตำแหน่ง เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ปัจจุบันนางสาวไตรศุลี อายุ 35 ปี และเป็นลูกสาวของ นายวิชิต ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกษ จบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเริ่มต้นการทำงานทางการเมืองด้วยการดำรงตำแหน่งรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี […]

เจ้าของห้องคอนโด ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด

23 ก.ย. – เจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวายทำลายทรัพย์สิน ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษ หนุ่มเจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวาย ทำลายทรัพย์สิน รวมถึงใช้อาวุธมีดมาเคาะประตูเชิงข่มขู่กลางดึก เปิดใจว่าขณะเกิดเหตุตกใจกลัวมาก หากประตูพังอาจเกิดเหตุไม่คาดคิด ต้องวิ่งไปหลบในห้องนอนและเอาของมาวางกั้นไว้ แต่ก็ยังโทรฯ หาตำรวจและแจ้งนิติบุคคลคอนโด แต่ก็ไม่มีใครขึ้นมา ตอนนี้ต้องย้ายที่อยู่ชั่วคราวและลางาน เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย โดยมีหลายคนที่เจอเหตุการณ์เหมือนกับตนเอง ส่วนทางคู่กรณี ตนอยากจะบอกว่า ถ้าหากมีอาการจิตเวชจริงก็ขอให้เข้ารับการรักษา ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษเพราะเกินเวลานั้นมานานแล้ว ยืนยันจะดำเนินการตามกฎหมาย เพราะสุดท้ายแล้วเชื่อว่ากฎหมายจะให้ความเป็นธรรมกับตนได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

สีสันวันมงคล ครม.

26 ก.ย. – นายกรัฐมนตรีถือฤกษ์ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล ในโอกาสเข้าไปปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการครั้งแรก ขณะที่ยังมีรัฐมนตรีอีกหลายคนเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เช่นเดียวกัน แต่ละคนถือเคล็ดต่างกันไป สีสันวันมงคล ครม. -สำนักข่าวไทย

จารึกนาม “16 ทหารกล้า” แนวหน้าชายแดนไทย-กัมพูชา

26 ก.ย. – กองทัพบก จัดพิธีจารึกนาม และสดุดีกำลังพล ผู้สละชีพเพื่อชาติ จากกรณีพิพาทชายแดนไทย–กัมพูชา อย่างสมเกียรติ.-สำนักข่าวไทย

รอปูนแข็งตัว 6 ชม. แล้วเทซ้ำ วนไปจนถึงวันอาทิตย์

กทม. 26 ก.ย. – ผู้รับเหมาปรับแผน การเทปูนลงหลุมยักษ์ เป็นการเทตามวงรอบ 6 ชั่วโมง เว้น 6 ชั่วโมง เพื่อให้ปูนแข็งตัว โดยปูนที่เทลงไปก่อนหน้าได้ไปอุดช่องโหว่ในจุดที่จะเสี่ยงให้เกิดดินสไลด์ได้ทั้งหมด 100% แล้ว คาดการเทปูน จะจบตามแผนภายในวันอาทิตย์นี้.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย