กลาโหมคุมเข้มสงกรานต์

กระทรวงกลาโหม 5 เม.ย.- คุมเข้มสงกรานต์  เฝ้าระวังความปลอดภัยร่วมกัน  เอาจริงเมาขับ อุบัติเหตุโทษสูงสุด 


พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า  พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เรียกประชุมฝ่ายความมั่นคงและส่วนราชการต่าง ๆ ทั้งส่วนกลางและภูมิภาค ผ่านระบบ VTC ณ ศาลาว่าการกลาโหม เพื่อเตรียมความพร้อมในการดูแลความปลอดภัย การอำนวยความสะดวกและลดอุบัติเหตุบนท้องถนน ช่วงเทศกาลสงกรานต์

โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ย้ำนโยบายรัฐบาล ว่าต้องการให้ประชาชนมีความสุข ปลอดภัยและสะดวกในการเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวทั่วไทย ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยด้านการดูแลความปลอดภัย ได้กำชับ ขอให้ทุกส่วนราชการประสานการทำงานร่วมกันใกล้ชิดและคงเข้มงานข่าว ติดตามเฝ้าระวังกลุ่มเป้าหมายและป้องกันพื้นที่เสี่ยงต่อเนื่องกันไป โดยให้ติดตามการเคลื่อนไหวกลุ่มขบวนการยาเสพติด และขบวนการข้ามชาติ ที่แฝงตัวฉวยโอกาสลักลอบเคลื่อนย้ายยาเสพติด อาวุธสงครามและสิ่งผิดกฎหมาย รวมทั้งการก่อวินาศกรรมและอาชญกรรม ที่กระทบความปลอดภัยและผลประโยชน์ของชาติ  ทั้งนี้ ขอให้มีการพัฒนาและซักซ้อมแผนเผชิญเหตุร่วมกันให้ครอบคลุมทุกพื้นที่เสี่ยง โดยต้องตื่นตัวและตั้งอยู่ในความไม่ประมาท 


พล.ท.คงชีพ กล่าวว่า สำหรับด้านการลดอุบัติเหตุบนท้องถนน จำเป็นที่ทุกส่วนราชการ ต้องคุมเข้มมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ทั้ง 7 มาตรการ โดยต้องนำข้อมูลสถิติความเสี่ยงในแต่ละพื้น มาพิจารณาปิดเงื่อนไขและลดปัจจัยเสี่ยงให้มากที่สุด ทั้งด้านคน ด้านถนนและสภาพแวดล้อม ด้านยานพาหนะ ด้านความปลอดภัยทางน้ำ ด้านการช่วยเหลือหลังเกิดอุบัติเหตุ รวมทั้งด้านการบริหารจัดการ ที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดรับผิดชอบหลัก

โฆษกกระทรวงกลาโหม  กล่าวว่า ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำรงการกวาดล้างอาชญากรรมที่เป็นภัยกับประชาชนในทุกพื้นที่ พร้อมทั้งกวดขันจับกุมผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการจราจร โดยบังคับใช้กฎหมาย อย่างเข้มงวด จริงจังและต่อเนื่อง โดยกำหนดค่าปรับในอัตราโทษสูงสุด กับการดื่มแล้วขับ ขับรถเร็ว ไม่สวมอุปกรณ์นิรภัย ตามที่กฎหมายกำหนด  ทั้งนี้ ขอให้ทุกหน่วยงานร่วมอำนวยความสะดวกด้านการจราจร และประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ พร้อมทั้งขอความร่วมมือประชาชน ร่วมรักษาวินัยและปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด เพื่อลดการเสียชีวิตและบาดเจ็บจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในทุกปี.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง