กรุงเทพ ฯ 1 เม.ย. – ธนาคารกสิกรไทยชี้สินเชื่อไตรมาสแรกชะลอตัว จากปัจจัยต่างประเทศกดดัน แต่ยังคงเป้าสินเชื่อปีนี้โตร้อยละ 5-7 เร่งขยายกลุ่มรายย่อยมากขึ้น หวังรัฐบาลใหม่เบิกจ่ายงบประมาณรวดเร็วและเดินหน้าการลงทุน
นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) กล่าวว่า ภาพรวมของสินเชื่อในช่วงต้นปีที่ผ่านมายังชะลอตัวอยู่บ้าง หลังจากในช่วงปลายปีที่ผ่านมามีการเร่งปล่อยสินเชื่อ โดยปีนี้ยังมีปัจจัยที่ไม่แน่นอนและกดดันสร้างความผันผวนต่อภาพรวมเศรษฐกิจ เช่น สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ความไม่แน่นอนของกรณีที่อังกฤษจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ภาวะเศรษฐกิจโลกเกิดการชะลอตัวขึ้น ซึ่งอาจส่งผลมาถึงการลงทุนและความต้องการใช้สินเชื่อที่ในช่วงต้นปีชะลอลง เพราะเอกชนต้องรอดูข้อมูลเพื่อนำมาประกอบการดำเนินธุรกิจ โดยธนาคารคาดว่าการขยายตัวของสินเชื่อปีนี้จะยังเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้โตร้อยละ 5-7 โดยปีนี้เน้นขยายพอร์ตกลุ่มสินเชื่อรายย่อยมากขึ้น
ส่วนปัจจัยในประเทศ คือ การจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่หลังการเลือกตั้ง โดยยังต้องรอการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในวันที่ 9 พฤษภาคม 2562 อย่างไรก็ตาม รัฐบาลปัจจุบันที่มีอำนาจเต็มก็ยังสามารถขับเคลื่อนนโยบายได้ ซึ่งธนาคารฯ หวังว่ารัฐบาลชุดใหม่จะเร่งการเบิกจ่ายได้อย่างรวดเร็ว และเร่งเดินหน้าโครงการต่าง ๆ ให้ออกมาตามแผนที่วางไว้ เพื่อทำให้การลงทุนในประเทศมีความต่อเนื่อง สร้างความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการ นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ
นายปรีดี ย้ำว่าธนาคารยังระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อรายย่อย โดยลูกค้าจะต้องมีภาระหนี้ไม่เกินร้อยละ 40 ของรายได้ ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่สมาคมธนาคารไทยกำหนดไว้ เพราะสัดส่วนภาระหนี้ดังกล่าว ถือว่าเป็นระดับที่ลูกค้าสามารถมีความสามารถในการผ่อนชำระได้ ส่วนการเริ่มใช้เกณฑ์สัดส่วนสินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV) ใหม่ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในวันนี้ ( 1 เม.ย.) เป็นวันแรกนั้น ยังคงต้องติดตามผลกระทบในช่วง 9 เดือนที่เหลือของปีนี้ว่าจะเป็นอย่างไร ส่วนการพิจารณาปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ของธนาคารจะยังคงพิจารณาตามเกณฑ์ และไม่ได้เข้าไปแข่งขันกับผู้ประกอบการเจ้าอื่นในตลาดมากนัก จากที่ปัจจุบันการแข่งขันในสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ค่อนข้างแข่งขันกันมาก ผู้ประกอบการบางรายให้ลูกค้าวางเงินดาวน์ระดับต่ำและสามารถออกรถได้เลย ซึ่งเป็นการประเมินความเสี่ยงของผู้ประกอบการแต่ละราย แต่ในส่วนของธนาคารยังคงเน้นกลุ่มลูกค้าที่มีเงินดาวน์ค่อนข้างมาก เพื่อป้องกันความเสี่ยงของหนี้เสียและรักษาระดับ NPL ของธนาคารในภาพรวมให้เหมาะสม. – สำนักข่าวไทย