ประชาธิปัตย์ 29 มี.ค.- “อลงกรณ์” ระบุ ท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์จะต้องเป็นไปตามมติของคณะกรรมการบริหารพรรค ขณะที่ การเลือกหัวหน้าพรรค คนใหม่ เห็นว่าควรมีการหยั่งเสียง แต่อาจปรับปรุงวิธีการ เชื่อ จะมีคนรุ่นใหม่ลงชิงหัวหน้าพรรค
นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผย ถึงความเป็นไปได้ในการพิจารณาท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ภายหลังการเลือกตั้ง ว่า มี 3 แนวทาง คือ จะเป็นรัฐบาล เป็นรัฐบาลอย่างมีเงื่อนไข หรือเป็นฝ่ายค้านอิสระ แต่ขณะนี้ยังไม่มีมติใดจากคณะกรรมการบริหารพรรค ความเห็นที่ออกมาในขณะนี้เป็นความเห็นส่วนตัว หากมีการเจรจาใดๆ เกิดขึ้น ไม่ถือว่าเป็นการยอมรับจากคณะกรรมการบริหารพรรค
“ส่วนจะตัดสินใจไปในทางไหน โดยหลักการแล้วควรเป็นเรื่องของคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ และ ส.ส ที่ได้รับการรับรองผล เพราะขณะนี้ยังถือว่าไม่มี ส.ส. เว้นแต่จะมีการยกเว้น หรือเปลี่ยนแปลงข้อบังคับเป็นอย่างอื่น” นายอลงกรณ์ กล่าว
สำหรับแนวทางการเลือกหัวหน้าพรรค นายอลงกรณ์ มองว่า การหยั่งเสียงยังเป็นแนวทางที่ถูกต้องที่สุดของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ควรจะยกเลิกหรือยกเว้น แต่ภายใต้ข้อจำกัดหลายประการ จะต้องมีการปรับปรุงวิธีการ เพราะการจะโหวตทั่วประเทศในระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่เคยใช้ มีปัญหาเรื่องข้อจำกัด หรือจะเปิดกว้างให้โหวตในระดับจังหวัด หรือเขตเลือกตั้ง ก็อาจจะเป็นทางออก แต่ไม่ควรยกเลิกหรือยกเว้นเรื่องการหยั่งเสียง ไม่เช่นนั้นจะนำพาพรรคย้อนไปสู่อดีตที่เป็นการเมืองแบบปิด ส่วนข้อเสนอของกลุ่มนายถาวร ก็เป็นข้อเสนอที่ทุกฝ่ายมีสิทธิ์เสนอในคณะกรรมการบริหารพรรคทั้งสิ้น
นายอลงกรณ์ ยังเสนอวิธีการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ โดยให้ผู้สมัครแสดงวิสัยทัศน์ใน 4 ภาค รวมถึง กรุงเทพมหานคร และให้สมาชิกแสดงความคิดเห็นโดยตรงผ่านไลน์ หรือ Social Media ซึ่งง่ายกว่าการโหวต เพราะที่ผ่านมาเคยพิสูจน์แล้วว่า ไม่มีระบบใดที่มีความมั่นคงหรือมีเสถียรภาพ และต้องการให้การเลือกตั้งหัวหน้าพรรคครั้งนี้ เปิดกว้างที่สุดไปถึงสมาชิก อย่าปิดประตูตีแมวเอาเพียงเฉพาะกลุ่ม ไม่เช่นนั้นประชาธิปัตย์จะเริ่มต้นด้วยการกลัดกระดุมเม็ดแรกที่ผิด และประชาชนจะไม่ให้โอกาสแก้ตัว
“เชื่อว่าการชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคครั้งนี้ จะมีคนรุ่นใหม่ลงสมัครชิงตำแหน่งด้วย และจะเหมือนปรากฏการณ์อนาคตใหม่ในการเลือกตั้งที่ผ่านมา” นายอลงกรณ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม นายอลงกรณ์ กล่าวว่า ส่วนตัวยังไม่ตัดสินใจจะลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคหรือไม่ แต่เห็นว่าคนเป็นหัวหน้าพรรคควรมีคุณสมบัติ 5 ข้อ 1. เป็นนักปฏิรูปอย่างแท้จริง 2. มีประสบการณ์การบริหาร 3. มีอุดมการณ์ที่มั่นคงต่อแนวทางของพรรค 4. เปิดกว้าง และ 5.ไม่อยู่ในสังกัดของใคร เป็นคนของสมาชิกพรรคอย่างแท้จริง ..- สำนักข่าวไทย