2แพทย์เข้ารับทราบข้อหาคดีลักลอบนำยาลดความอ้วนขายออนไลน์

กรุงเทพฯ 25 มี.ค.- 2 แพทย์ คดีลักลอบนำยาลดความอ้วนออกจำหน่าย เข้ารับทราบข้อหา ตำรวจคุมตัวส่งศาลฝากขังทันที


แพทย์หญิงบัณฑิตรา  นาใจคง  และนายแพทย์จอมพล มีศรี  เข้าพบพนักงานสอบสวนตำรวจปราบปรามยาเสพติด ตามหมายเรียกครั้งที่ 2  พร้อมรับทราบข้อหาในการนำยาลดความอ้วน ที่มีส่วนผสมวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 และ 4 จำหน่ายโดยผิดกฎหมาย หลังลักลอบนำยาลดความอ้วนออกจำหน่ายในโซเชียลโดยผิดกฎหมาย  ซึ่งตำรวจได้สอบปากคำในประเด็นการสั่งและเบิกยาจาก อย. รวมถึงเส้นทางในการนำยาออกนอกระบบ  และลายเซ็นที่พบในการสั่งเบิกสั่งยา  โดยมีทนายความเดินทางมาด้วย

สำหรับแพทย์ทั้งสองคนเจ้าหน้าที่ตำรวจพบข้อมูลหลักฐานว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสั่งยาลดความอ้วนดังกล่าวจากทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. จำนวนมาก เพื่อส่งต่อให้กับนางสาววิไรรัตร อุดทอง ซึ่งเป็นนายทุนใหญ่ ที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ นำไปขายต่อผ่านทางออนไลน์แบบผิดกฎหมาย พนักงานสอบสวน จึงแจ้งข้อหาสมคบโดยการตกลงกัน ตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และได้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เพราะเหตุที่ได้สมคบกันตาม พรบ.มาตรการฯ


นายสุนทร ชูแก้ว ทนายความของแพทย์ทั้ง 2 คน  ระบุว่า ขณะนี้ลูกความให้การปฎิเสธ เนื่องจากไม่ทราบว่ามีการจัดชุดยา และไม่มีส่วนร่วมในการนัดชุดยาออกมาจำหน่าย ซึ่งปกติยานี้ไม่ใช่ยาต้องห้ามตามตำรับยา ซึ่งขั้นตอนต่อไป พนักงานสอบสวนจะนำตัวลูกความไปของอำนาจศาลอาญา ถนนรัชดาฝากขัง ซึ่งเบื้องต้นได้เตรียมหลักทรัพย์เป็นเงินสดยื่นประกันตัว คนละ 3 แสนบาท อย่างไรก็ตามคดีดังกล่าวมีการตัดตอนข้อเท็จจริง ทำให้ทีมทนายความต้องขอไปตรวจสอบรายละเอียดเพื่อวางแนวทางการต่อสู้คดี

พลตำรวจโทชินภัทร สารสิน ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ระบุว่าแนวทางการสืบสวนพบความเชื่อมโยงของแพทย์ทั้ง 2 คนกับขบวนการนี้โดยตำรวจพิจารณาเห็นว่าผู้ที่ประกอบวิชาชีพแพทย์ย่อมต้องรู้ถึงความอันตรายของวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท และ เมื่อมีการสั่งซื้อเข้ามาใช้ยังคลินิกแต่ยานั้นหลุดออกนอกระบบ ซึ่งแสดงถึงเจตนาให้เกิดผลในการกระทำความผิดจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ นอกจากนี้ตำรวจจะมีการขยายผลไปหาบุคคลซึ่งเป็นตัวกลางซึ่งมีความเชื่อมโยงระหว่างกลุ่มแพทย์กับนายทุนและเตรียมออกหมายเรียกเข้าให้ปากคำในเร็วๆนี้ .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง