รัฐสภา 6 ธ.ค.-ที่ประชุมสปท.รับทราบการอัญเชิญองค์พระรัชทายาทขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ พร้อมถวายพระพรชัยแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลใหม่ ขณะเดียวกันมีมติเอกฉันท์เห็นชอบรายงานการปฏิรูปการดำเนินงานของกองทุนพัฒนาไฟฟ้า เพื่อฟื้นฟูท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้า
การประชุมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) วันนี้ ร.อ.ทินพันธุ์ นาคะตะ ประธานสปท.เป็นประธานการประชุม โดยมีวาระสำคัญคือรับทราบพระราชโองการประกาศเฉลิมพระปรมาภิไธยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และรับทราบประกาศสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เรื่อง อัญเชิญองค์พระรัชทายาทขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ ซึ่งในโอกาสอันเป็นมหามงคล สมาชิก สปท.ได้ลุกขึ้นยืนเพื่อน้อมเกล้ฯ ถวายพระพรชัยแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลใหม่ว่า “ขอพระองค์ทรงพระเจริญ”
จากนั้น เข้าสู่วาระพิจารณารายงานของคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านพลังงานและคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรฤฤปประเทศ ด้านสาธารสุขและสิ่งแวดล้อมเรื่อง การปฏิรูปการดำเนินงานของกองทุนพัฒนาไฟฟ้า โดยเสนอการปฏิรูปการทำงานในระดับปฏิบัติ เน้นเรื่องการจัดสรรเงินกองทุนเพื่อดำเนินโครงการชุมชน และปรับปรุงระเบียบคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานว่าด้วยกองทุนพัฒนาไฟฟ้า เพื่อการพัฒนาหรือฟื้นฟูท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า พ.ศ. 2553 ปรับปรุงเกณฑ์การจัดสรรเงินกองทุนให้ครอบคลุม เป็นธรรมกับประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ ปรับเกณฑ์การจัดสรรเงินโครงการชุมชนจาก 11 ด้าน เป็น 4 ด้าน คือ การส่งเสริมการศึกษาและสุขภาพ การพัฒนาอาชีพ การอนุรักษ์และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม และการใช้จ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินและช่วยเหลือผู้ทุกข์ยากเดือนร้อน ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าได้รับประโยชน์จากกองทุนอย่างแท้จริง ทั่วถึง เป็นธรรม และมีประสิทธิภาพ สามารถพัฒนาฟื้นฟูท้องถิ่นที่อยู่ในพื้นที่ประกาศตามความต้องการของชุมชน
ขณะที่สมาชิก สปท. ส่วนใหญ่อภิปรายเห็นด้วยกับรายงาน เพราะการปรับหลักการกองทุนพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชน จะทำให้บริษัทเอกชนและเจ้าหน้าที่ของรัฐตระหนักถึงคุณภาพชีวิต รวมถึงการประกอบอาชีพของประชาชนที่อยู่ใกล้บริเวณโรงไฟฟ้ามากขึ้น แต่มีข้อเสนอให้เปิดโอกาสให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่มีสิทธิเข้าไปเป็นกรรมการกองทุน เพราะถือว่าเป็นผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง และเพื่อให้เงินกองทุนนี้ตกเป็นของประชาชนโดยแท้จริง พร้อมเสนอให้ประชาชนที่อยู่ใกล้โรงไฟฟ้าได้ใช้ไฟฟ้าฟรี เพราะถือเป็นผู้ที่ต้องเสียสละ
จากนั้น ที่ประชุม สปท.มีมติเอกฉันท์เห็นชอบรายงานดังกล่าวด้วยคะแนน 154 เสียง งดออกเสียง 4 เสียง โดยหลังจากนี้คณะกรรมาธิการฯ จะนำไปปรับปรุงก่อนส่งให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป.-สำนักข่าวไทย