กรุงเทพฯ 11 มี.ค.- ศาลสั่งลงโทษ จำคุก “บังฮิม” บุกห้องนักศึกษาข่มขืนแล้วชิงทรัพย์ รวม 26 ปี รับสารภาพ ลดโทษเหลือ 13 ปี
ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษา คดีที่พนักงาน อัยการคดีอาญา 3 เป็นโจทก์ฟ้องนายสุรินทร์ ยันตะดิลก หรือบังฮิม อายุ 37 ปี จำเลยในความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ , ข่มขืนใจผู้อื่นฯ โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกายฯ , ชิงทรัพย์ในเคหสถานและบุกรุกเข้าไปในอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่น จากกรณีที่เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2561 จำเลย บุกเข้าไปในห้องพักแห่งหนึ่งย่านห้วยขวาง และข่มขืนกระทำชำเรานักศึกษาอายุ 19 ปี
โดยในวันเกิดเหตุ จำเลยยืมจักรยานยนต์ของเพื่อนรุ่นพี่ขี่มาหาเพื่อนซึ่งเป็นสาวประเภท 2 ที่อพาร์ตเมนต์ดังกล่าว แต่ไม่พบ เนื่องจากไม่อยู่ห้อง จึงนั่งดื่มสุราอยู่ระแวกหอพักจนเมา และสังเกตเห็นหอพักดังกล่าวอยู่ในที่เปลี่ยวประกอบกับไม่มีกล้องวงจรปิด จึงเดินเคาะห้อง ตั้งแต่ชั้น 1 ถึงชั้น 4 จนมาพบว่าห้องผู้เสียหายไม่ได้ล็อกประตู จึงเปิดเข้าไปรื้อค้นหาทรัพย์สิน ขณะเดียวกันผู้เสียหายได้เดินออกมาจากห้องน้ำ จึงใช้กำลังบังคับก่อนผูกผ้าปิดตาผู้เสียหาย แล้วข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ ก่อนเอาทรัพย์สินหลบหนีไป
ต่อมาพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ขออนุมัติหมายจับศาลอาญา และติดตามจับกุมตัวจำเลยได้บริเวณหน้าบ้านพัก เลขที่ 160 ซอยรามอินทรา 2 แขวงอนุสาวรีย์ชัย เขตบางเขน กรุงเทพฯ เมื่อเวลา 09:00 น. ของวันที่ 22 กันยายน 2561 พร้อมของกลางเป็นพระเครื่อง 6 องค์ และชุดที่ใส่ในวันเกิดเหตุ
ล่าสุด วันนี้ ศาลเบิกตัวนายสุรินทร์มาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพ เพื่อรอฟังคำพิพากษา ที่ศาลอาญา ซึ่งศาล มีคำพิพากษาลงโทษ จำคุกจำเลยฐานข่มขืนฯ 8 ปี ชิงทรัพย์ในเคหสถานและบุกรุกเข้าไปในอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่น จำคุก 18 ปี แต่เนื่องจากจำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก ฐานข่มขืน 4 ปี ชิงทรัพย์ฯ 9 ปี รวมจำคุก 13 ปี และมีคำสั่งให้จำเลยต้องคืนทรัพย์สินทั้งหมด อาทิ โทรศัพท์มือถือ กระปุกออมสิน จี้ทอง และพระเครื่องให้แก่ผู้เสียหาย .-สำนักข่าวไทย