อีสานพายุถล่มหลายพื้นที่ อุดรฯ ลูกเห็บขนาดเท่ากำปั้น-เหนือค่าฝุ่นยังไม่ดีขึ้น

ภูมิภาค 26 ก.พ.- หลายพื้นที่ภาคอีสานเกิดพายุถล่ม จ.อุดรธานี เผชิญพายุลูกเห็บ บ้านเรือนกว่า 1,000 หลัง พังเสียหาย ส่วนใหญ่หลังคาทะลุจากลูกเห็บขนาดเท่ากำปั้นตกใส่ ส่วนค่าฝุ่นละอองพื้นที่ภาคเหนือยังไม่ดีขึ้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งระดมฉีดพ่นละอองน้ำแก้ปัญหา 


กองทัพอากาศนำเครื่องบินบรรทุกน้ำ 3,000 ลิตร ขึ้นบินโปรยน้ำเหนือศูนย์ราชการเชียงใหม่และข่วงประตูท่าแพ เพื่อลดปัญหาหมอกควัน เพราะแม้ค่าฝุ่น PM2.5 จะลดลง แต่ยังอยู่เกณฑ์เฝ้าระวัง เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ รวมถึงยังพบจุดความร้อนจากไฟป่าในพื้นที่ป่าชุมชน ป่าอนุรักษ์ และพื้นที่ป่าสงวน ทั่วภาคเหนือตอนบนมากถึง 273 จุด และเฉพาะที่เชียงใหม่มีมากถึง 47 จุด


ขณะที่ พล.ต.บัญชา ดุริยพันธ์ รองแม่ทัพภาคที่ 3 เผย 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดไฟป่าในพื้นที่ลำปาง ลำพูน และเชียงใหม่ จากการลักลอบเผาป่าล่าสัตว์และหาของป่า บริเวณป่าธรรมชาติ ครอบคลุมพื้นที่หลายพันไร่ ซึ่งหน่วยงานเร่งระดมดับไฟและแก้ปัญหาได้ในบางพื้นที่เท่านั้น


ส่วนสถานการณ์ไฟไหม้ป่าในพื้นที่ จ.ลำปาง ยังไม่คลี่คลาย ล่าสุดพบว่ายังมีไฟไหม้ป่าใน 7 อำเภอ เจ้าหน้าที่ต้องทั้งเดินเท้าและใช้เฮลิคอปเตอร์บินดับไฟป่า แต่ยังควบคุมไม่ได้ในหลายพื้นที่ ส่งผลให้สภาพอากาศในตัวเมืองลำปาง ซึ่งเป็นพื้นที่แอ่งกระทะถูกปกคลุมด้วยหมอกควันไฟ ประชาชนเริ่มใส่หน้ากากอนามัยออกนอกบ้านเพื่อป้องกันฝุ่นละออง โดยที่ อ.แม่เมาะ พบว่าค่าฝุ่น PM2.5 สูงมากถึง 88 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร

ส่วนพื้นที่ภาคอีสาน หลายพื้นที่ถูกพายุถล่ม เช่นที่ จ.อุดรธานี เกิดพายุลูกเห็บถล่ม ทำให้ อ.เมือง อ.เพ็ญ และ อ.กุมภวาปี ได้รับผลกระทบ บ้านเรือนกว่า 1,000 หลัง พังเสียหาย ส่วนใหญ่หลังคาทะลุจากลูกเห็บขนาดเท่ากำปั้นตกใส่ และอีกหลายหลังถูกแรงลมพัดหลังคาบ้านปลิวหาย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งสำรวจความเสียหาย และตั้งศูนย์ช่วยเหลือประชาชนนำน้ำสะอาดและรถปั่นไฟเข้ามาตั้งเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน

ขณะที่ชาวบ้านบ้านม่วงหวาน อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น บ้านเรือนพังเสียหาย แรงลมได้พัดสังกะสี ฝาบ้านหายไปนับสิบหลังคาเรือน ต้นไม้หักโค่นทับเสาไฟฟ้าแรงสูง สายไฟฟ้าขาดเสียหาย ทำให้ไฟดับทั้งหมู่บ้าน กำลังทหาร ประจำพื้นที่ต้องเร่งเข้าไปช่วยเหลือในเบื้องต้น

ส่วนที่บึงกาฬ ถนนหลวงสาย 212 บึงกาฬ-บ้านแพง บริเวณบ้านท่าโพธิ์ อ.เมืองบึงกาฬ พายุถล่มในพื้นที่ทำให้ต้นไม้หักโค่นขวางถนน ไม่เว้นแม้แต่ป้ายหาเสียงของผู้สมัคร ส.ส.หลายพรรคที่ติดตั้งริมถนนล้มระเนระนาด เจ้าหน้าที่หมวดทางหลวงบึงกาฬต้องเร่งเคลียร์ทาง นำกำลังพร้อมเครื่องมือเข้าตัดฟันกิ่งไม้ที่ล้มขวางถนน เพื่อให้ประชาชนใช้สัญจรได้ตามปกติ.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง