กกต.หารือตำรวจดูแล-จับตาทุจริตเลือกตั้ง ส.ส.

กทม. 22 ก.พ.- กกต.หารือตำรวจ เหตุห่วงเรื่องรักษาความปลอดภัยและการจราจร
โดยเฉพาะการร้องเรียนทุจริต คัดค้านการนับคะแนน



พันตำรวจเอกจรุงวิทย์ ภุมมา
เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ประชุมร่วมกับพลตำรวจเอกศรีวราห์
รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
เพื่อพิจารณาแนวทางการดำเนินคดีเกี่ยวกับการเลือกตั้งและพรรคการเมืองครั้งที่
2/2562 


เลขาธิการ กกต.เป็นห่วงเรื่องการรักษาความปลอดภัยวันเลือกตั้ง
24 มีนาคม โดยเฉพาะพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้และช่วงนับคะแนน หลังเวลา 17.00 น. และอาจล่วงเลยไปจนถึง
21.00 น.ซึ่งอาจมีการร้องคัดค้านการนับคะแนนในบางพื้นที่ ส่วนวันเลือกตั้งล่วงหน้า
17 มีนาคม ขอให้ตำรวจดูแลการจราจรให้ผู้มาลงคะแนน รวม 61 หน่วย ในกรุงเทพฯและปริมณฑล อาทิ โรงเรียนโดยเฉพาะโรงเรียนบ้านบางกะปิ ซึ่งมีคนลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าถึง
61,401 คน จึงขอให้จัดสรรพื้นที่จอดรถ
พร้อมประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนไปช่วงเช้า เพื่อจะเข้าถึงพื้นที่ได้สะดวก โดยพบว่าประชาชนตื่นตัวอย่างมากกับการเลือกตั้งครั้งนี้
ขนาดมีผู้ลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าสูงกว่า
2  ล้านคน

ด้านพลตำรวจเอกศรีวราห์ ได้สั่งการให้ตำรวจทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนจัดการดูแลพื้นที่ในแต่ละแห่ง
รวมถึงการดูแลความปลอดภัยต่อประชาชนส่งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติภายในวันที่
1 มีนาคมนี้ ส่วนเรื่องงบประมาณดูแลการเลือกตั้ง เบื้องต้น กกต. อนุมัติมา 95 ล้านบาท ล่าสุด กกต.จะขออนุมัติเพิ่มอีก 37 ล้านบาท
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ 
จึงสั่งการให้ทุกกองบัญชาการทำความเห็นส่งกลับและขอให้พิจารณาบริหารงบประมาณในกรอบจำนวน
95 ล้านบาทไปก่อน ทั้งนี้การจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง
หากเป็นข้อหาที่มีโทษทางอาญาให้ตำรวจดำเนินคดีได้ทันที
หากเป็นความผิดเกี่ยวกับการทุจริตที่มีโทษถึงผลของการเลือกตั้ง
ให้พนักงานสอบสวนแจ้ง กกต. ภายให้
72 ชั่วโมงเพื่อพิจารณาว่า
จะขอโอนสำนวนมาให้ กกต.ดำเนินคดีเองหรือไม่ 
ส่วนคดีการทุจริตซื้อเสียง ขอให้ตำรวจเก็บรวบรวมพยานหลักฐานสำคัญคือ เงินที่ถูกใช้ในการซื้อเสียง ซึ่งขณะนี้
กกต.ได้รับเบาะแสทั้งเรื่องร้องเรียนและตรวจพบการทุจริต ในรูปแบบการเก็บบัตรประชาชนจำนวน
42 เรื่อง นอกจากนี้ตามกฎหมายแล้ว  การสอบสวนคดีทุจริตการเลือกตั้ง
ยังมีประเด็นเรื่องการคุ้มครองพยานและการกันตัวผู้กระทำความผิดมาเป็นพยาน ซึ่งแตกต่างจากกฎหมายทั่วไปตรงที่สามารถกันตัวการร่วมกระทำความผิดในข้อหาหนักมาเป็นพยานได้
ในส่วนนี้จะให้ฝ่ายกฎหมายของ กกต.ชี้แจง
เพื่อให้ตัวแทนแต่ละกองบัญชาการนำไปถ่ายทอดให้เจ้าหน้าที่ในสังกัดรับทราบ.-สำนักข่าวไทย


 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง