ซีอีโออาเซียนมองเศรษฐกิจโลกปีนี้ชะลอ

กรุงเทพฯ 21 ก.พ. – PwC เผยความเชื่อมั่น CEO อาเซียนลดลง กังวลเศรษฐกิจโลกชะลอตัว สงครามการค้าสูงสุด กระทบรายได้ลดลง ขณะที่จีนครองอันดับหนึ่งประเทศน่าลงทุน


นายศิระ อินทรกำธรชัย ประธานกรรมการบริหารและหุ้นส่วนบริษัท PwC ประเทศไทย เผยผลสำรวจ CEOทั่วโลกครั้งที่ 22 ประจำปี 2562 หรือ Global CEO Survey ซึ่งใช้ในการประชุม Economic forum ณ กรุงดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ จากความเห็น 1,378 CEO โลก จาก 91 ประเทศ โดยพบว่า CEO ของอาเซียนกว่า 78 ราย ต่างมองเศรษฐกิจโลกปีนี้ชะลอตัวถึง 46% เพิ่มจากปีก่อนที่มองเพียง 10% ขณะที่ CEO โลกมองเศรษฐกิจชะลอ  28 % เพิ่มเช่นกันจากปีก่อนที่มองเพียง 5 %

โดย 5 ปัจจัยเสี่ยงในสายตาของ CEO อาเซียน อันดับ 1 คือ ความขัดแย้งทางการค้า 83 % (CEO โลก 70 %) 2.ความไม่แน่นอนการเมือง โดยเฉพาะในไทยและฟิลิปปินส์ ที่จะมีการเลือกตั้ง 81 % (CEO โลก 75% ) 3.ความไม่แน่นอนด้านนโยบาย 78 % เท่ากับโลก 4.กฎระเบียบข้อบังคับที่มากเกินไป 77 % (CEO โลก 73 %) และ 5.ความไม่แน่นอนเศรษฐกิจโลก 73 % เท่ากับผลสำรวจ CEO โลก


ทั้งนี้ ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและจีน ทำให้ CEO ในอาเซียน กว่า 29 % ปรับกลยุทธ์ ด้วยการหันไปส่งออก และน้ำเข้าวัตถุดิบจากประเทศอื่นแทน พร้อมทั้งชะลอการลงทุนเพื่อติดตามสถานการณ์ ส่วนอีก 17 % เปลี่ยนฐานการลงทุนไปในตลาดเกิดใหม่ เช่น อินโดนีเซีย และเวียดนามและไทย

ส่วนความเชื่อมั่นการเติบโตด้านรายได้ในอีก 12 เดือนข้างหน้า ความเชื่อมั่นของ CEO อาเซียนลดลงจาก 44 % ในปีก่อน เหลือ 33 % ในปีนี้ โดยอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจสูงสุด คือ การขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะ 82 % ภัยคุกคามไซเบอร์ 81 % และความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี เป็นไปอย่างรวดเร็ว  72 %

ส่วนประเทศน่าสนใจลงทุนในมุมมองของ CEO อาเซียน คือ 1. จีน  2. อินโดนีเซีย 3.สหรัฐ  4.เวียดนาม 5.อินเดีย 6.เมียนมา 7.มาเลเซีย 8 .ไทย  ลดลงจากอันดับ 5 ในปีก่อน สาเหตุเนื่องมาจากช่วงเวลาสำรวจคือเดือนกันยายน 2561 ซึ่งยังไม่มีความแน่นอนเรื่องการกำหนดวันเลือกตั้ง จึงอาจเกิดความไม่มั่นใจต่อเสถียรภาพทางการเมืองของไทยและความเชื่อมั่น ถ้าสำรวจตอนนี้ อันดับไทยน่าจะดีขึ้นมีโอกาสจะขยับขึ้นไปได้มากกว่าอันดับ 8 ในปัจจุบัน อาจเป็นอันดับ 7 หรือ 6 ส่วนญี่ปุ่น กัมพูชา สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์  อยู่อันดับ 8 เช่นกัน 9.เยอรมนี และ 10.บราซิล ฮ่องกง เกาหลีใต้


สำหรับความพร้อมของอาเซียนในการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาใช้ในธุรกิจนั้น นายศิระ กล่าวว่า 72% ของ CEO อาเซียน คาดว่าการปฏิวัติของ AI จะส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อโลก ยิ่งกว่าการปฏิวัติทางอินเทอร์เน็ตซึ่งเคยเกิดขึ้นในช่วงกลางของยุค 90 และ 87% ยังเห็นด้วยว่า AI จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงการทำธุรกิจในอีก 5 ปีข้างหน้า

อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจกลับพบว่าธุรกิจอาเซียนเกือบ 40% ยังไม่มีการนำ AI เข้ามาใช้งานในปัจจุบัน ขณะที่อีก 32% มีแผนที่จะนำ AI เข้ามาใช้งานในอีก 3 ปีข้างหน้า ส่วนอีก 28% มีการใช้งาน AI ในวงจำกัด และมีเพียง 4% ที่มีการใช้ AI อย่างกว้างขวาง

นายศิระ กล่าวว่า ในส่วนของประเทศไทยคาดว่าคงไม่สามารถต้านกระแส  AI ได้ ซึ่งในอนาคตเชื่อว่าจะมีการนำ AI เข้ามาใช้ในการดำเนินธุรกิจมากขึ้น .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

ศึกชิงนายก อบจ.เพชรบุรี แชมป์เก่ายังแรง

เลือกตั้งนายก อบจ.เพชรบุรี ไม่คึกคัก ผลไม่เป็นทางการ “ชัยยะ อังกินันทน์” แชมป์เก่า คะแนนนำทิ้งห่างคู่แข่ง ด้านเลขาฯ กกต. เผยภาพรวมทั้ง 3 จังหวัด คนมาใช้สิทธิน้อย คาดเบื่อเลือกตั้ง 2 รอบ

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

ลุ้นผลเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ขณะนี้การนับคะแนนตามหน่วยต่างๆ เสร็จสิ้นแล้ว อยู่ในขั้นตอนการรวมคะแนน ซึ่งในเขตเมือง ผลปรากฏว่าผู้สมัครจากพรรคประชาชนมีคะแนนนำ แต่อำเภอรอบนอก ตัวแทนพรรคเพื่อไทยมีคะแนนนำอยู่หลายหน่วยเลือกตั้ง